YAZAMA Homestay | ที่พักเชียงใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ

ลมหนาวมาแล้ว เราอยากจะชวนหนีเที่ยวขึ้นดอยไปนอนใกล้ชิดธรรมชาติกันค่ะ ทริปนี้จุดหมายปลายทางเราอยู่ที่ YAZAMA Homestay

ทริปนี้เราเดินทางไปเชียงใหม่อีกครั้งค่ะ จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่อำเภอแม่แตง ที่นี่คือหนึ่งโฮมสเตย์ยอดฮิตของเชียงใหม่เลยค่ะ

วิธีการเดินทาง เราสามารถขับรถตาม Google maps ได้เลยค่ะ ระยะทางจะมีคดเคี้ยวเยอะหน่อย ไปเรื่อยๆ ขับไม่ยากค่ะ และอีกอย่างที่สายโซเชี่ยลควรจะต้องรู้ไว้คือ ในโซนที่พักอาจจะไม่ได้มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่ายนะ แต่ยังโชคดีที่ตัวที่พักเองจะมี WiFi ให้เราเชื่อมต่อได้ค่ะ พอให้เล่นได้ หายเหงาอยู่นะ

ทริปนี้เราจองมาเป็นบ้านหลังเล็ก โดยโฮมสเตย์หลังเล็กของที่นี่จะไม่มีอ่างสำหรับแช่ตัวนะคะ ส่วนตัวเราไม่ได้อยากแช่อ่างแค่อยากนั่งมองภูเขาแค่นั้นเอง

สำหรับบ้านหลังเล็กเราจองมาในราคา 1500 บาทรวมหมูกระทะ และ อาหารเช้า (ราคานี้เป็นราคาช่วงเดือน สิงหาคม – กันยายน ) ใครจะไปพักหน้าหนาวราคาบ้านหลังเล็กจะอยู่ที่ 2300 บาท รวมหมูกระทะ และ อาหารเช้านะคะ

มาดูภายในบ้านหลังเล็กของเรากันค่ะ ตัวบ้านขนาดกระทัดรัด ภายในมีที่นอน มีมุ้ง มุมนั่งพักผ่อนที่หันออกไปยังภูเขาลูกที่อยู่หน้าบ้านเราเลยค่ะ ภายในตัวบ้านมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากค่ะ และภายในบ้านจะมีห้องน้ำ มีน้ำอุ่น ใครไปช่วงหน้าหนาวสบายใจได้

ตอนเย็นจะมีหมูกระทะมาเสิร์ฟที่ระเบียงบ้านนะคะ เราชอบเตาปิ้งหมูกระทะที่นี่เป็นไฟฟ้า ไม่ต้องลุ้นเรื่องถ่านจะหมดมั้ย ไฟจะแรงเกินไปมั้ย 5555

ส่วนมุมหน้าบ้านเราถ้าในวันที่ฟ้าโปร่งๆ จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกและดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ

ฟ้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นมากับความสดชื่น ออกมาก็ได้เจอหมอกน้อยๆหน้าที่พักเลยค่ะ

ตอนเช้าก็มีอาหารเช้ามาเสิร์ฟ อาหารเช้าที่นี่เป็นข้าวต้ม ขนม ผลไม้ และกาแฟ เป็นอาหารเช้าง่ายๆแต่ฟินสุดๆเลยค่ะ

ใครกำลังจะหนีเที่ยวเชียงใหม่ กำลังหาที่พักโฮมสเตย์ใกล้ชิดธรรมชาติ ราคาไม่แรง เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ “YAZAMA Homestay

YAZAMA Homestay

Address : ตำบล กื้ดช้าง อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ 50150

Tel :  082 890 6309

FB : https://www.facebook.com/yazamahomestay/

Grand Mercure Phuket Patong

ทริปนี้เราชวนทุกคนหนีเที่ยวภูเก็ตกันอีกครั้ง จุดหมายปลายทางเราอยู่ที่ Grand Mercure Phuket Patong รีสอร์ตหรูที่ตั้งอยู่ในโซนป่าตอง ภูเก็ต

Grand Mercure Phuket Patong

รีสอร์ตหรู ระดับ 5 ดาว ที่ตั้งอยู่ในโซนป่าตอง โดยที่นี่เป็นที่พักขนาดใหญ่ มีห้องพัก 249 ห้อง ตัวรีสอร์ตไม่อยู่ติดหาดนะคะ แต่อยู่ในระยะที่เราสามารถเดินเท้าได้ถึงค่ะ ทริปนี้เราไปช่วงที่ภูเก็ตฝนตกตลอดเวลาเลยค่ะ แต่โชคดีมากที่เราจองห้องพักเป็นห้องในรีสอร์ตแห่งนี้ เพราะว่าถึงแม้ฝนตกตกแค่ไหน ภายในรีสอร์ตก็มี facilities ต่างๆครบครันมากๆค่ะ ไม่เบื่อแน่นอน

ทริปนี้เราจองพักผ่าน Trip.com แอปพลิเคชั่นสำหรับสายหนีเที่ยวแบบเรา โดยเราสามารถจะจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆได้ครบครันเลย ใครเป็นสายหนีเที่ยวแบบเรา เราแนะนำโหลดแอปพลิเคชั่นนี้ติดโทรศัพท์ไว้เลย เพราะนอกจากราคาที่ดีมากแล้ว เขายังมีกิจกรรมที่ให้เราได้ร่วมสนุกพ้อยท์เก็บไว้สำหรับใช้เป็นส่วนลดได้ด้วยค่ะ

SUPERIOR ROOM คือห้องที่เราพักในทริปนี้ ภายในห้องกว้างพอสมควรเลยค่ะ เตียงขนาดคิงไซค์ที่อยู่กลางห้อง มีโซฟาสำหรับพักผ่อน ห้องน้ำแอบเซ็กซี่เล็กๆด้วยหน้าตากระจกใส แต่หากใครมากับเพื่อนแบบเราก็สามารถปิดม่านได้ค่ะ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องมีทุกอย่างครบครันเลยค่ะ

ส่วนของห้องน้ำ สีสดใสตามคอนเซ็ป Grand Mercure มีอ่างแช่ตัวด้วยนะคะ ส่วนอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันค่ะ ใครมาที่นี่อย่าลืมเอาฟองแช่ตัวมาด้วยนะคะ จะได้แช่น้ำอุ่นตีฟองแบบฟินๆกัน

พาไปชมภายในรีสอร์กันค่ะ สระว่ายกลางของที่นี่จะอยู่ตรงกลางของรีสอร์ตเลยนะคะ โดยห้องพักต่างก็จะล้อมรอบสระอยู่ จากห้องที่เราก็จะสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำด้วยนะคะ

สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นอีกหนึ่งโซนที่ชิลมาก เพราะว่าที่สระจะมีบาร์ด้วย ในวันที่อากาศดี เราสามารถจะนั่งดื่มชิลๆ แช่น้ำไปด้วย คงเป็นวันที่ฟินมากๆเลยค่ะ

สำหรับสายดริ๊งเราขอแนะนำอีกหนึ่งโซน นั่นคือบาร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับล็อบบี้เลยค่ะ บาร์จะมีโปรโมชั่นเครื่องดื่มช่วง Happy Hour ด้วยนะคะ ชั่วโมงแแห่งความสุขที่คุ้มค่าสำหรับสายดริ๊งมากเลยค่ะ

เช้าวันที่สองอากาศที่ภูเก็ตก็ยังไม่ดีขึ้น แต่เช้านี้สิ่งที่จะทำให้เราอารมณ์ดีก็น่าจะเป็​นอาหารเช้านี่ละค่ะ อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ ไลน์อาหารมีให้เลือกมากกก ตั้งอาหารไทย อาหารภูเก็ต ติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยว เบเกอรี่ที่นี่ถือว่าจัดเต็มมากเลยค่ะ ใครเป็นสายอาหารเช้าจะต้องปลื้มกับที่นี่มากเลยแน่นอนค่ะ เพราะนอกจากไลน์อาหารจะเยอะมากแล้ว รสชาติก็อร่อยมากด้วย

ใครกำลังจะหนีเที่ยวภูเก็ต ยังไม่มีที่พักถูกใจ เราแนะนำที่นี่เลย Grand Mercure Phuket Patong ที่พักที่มีทุกอย่างครบในที่เดียว

Grand Mercure Phuket Patong

ที่อยู่ : 1 2 ซอย ราษฎร์อุทิศ 200 ปี 1 ภูเก็ต 83150

Tel :  076 231 999

FB : https://www.facebook.com/grandmercurephuketpatong

Web : https://grandmercurephuketpatong.com/

B House Samui | ที่พักสวยสมุย

ทริปนี้เราอยากชวนทุกคนหนีเที่ยวไปสมุยกันอีกครั้งค่ะ และทริปนี้จะพาไปเช็คอินที่พักแห่งหนึ่งที่อยู่ลิสต์ที่พักสมุยของเรามานาน เพราะว่าเราเคยไปพักที่พักแบรนด์เดียวกันในกรุงเทพมาแล้ว ประทับใจในความสวยงามของห้องพักมาก ดังนั้น B House Samui เลยกลายเป็นอีกหนึ่งที่พักที่เราอยากไปพักให้ได้

B House Samui

ที่พักบนเกาะสมุยที่ตั้งอยู่ในโซนหาดบางรัก ที่นี่เป็นที่พักขนาดไม่ใหญ่นัก ด้วยตัวทำเลของที่พักอยู่ใกล้สนามบิน และท่าเรือเฟอรี่สำหรับการเดินทางไปยังเกาะพงัน แต่สิ่งที่ดึงดูดให้เรามาพักที่นี่นั้นก็คือสไตล์การตกแต่งที่ผสมผสานการออกแบบสไตล์โคโลเนียลเข้ากับสไตล์เอเชียที่ทำให้ใครหลายคนอยากจะมาพักที่นี่สักครั้งเลยค่ะ

สารภาพตามตรงว่าเราอยากพักห้องที่มีมุมระเบียงกระจกเห็นทะเลของ B House Samui ทริปนี้เราเลยจองผ่านแอปเอเจนซี่ไปด้วยความมั่นใจว่า ห้องที่จองคือห้องที่เล็งมานานแน่ๆ จัดกระเป๋าหนีเที่ยวสมุยด้วยความเชิดๆ เพราะว่าชั้นจะได้ไปพักห้องที่อยากพักแล้วววว

แต่เมื่อมาเช็คอิน ฝันสลายยยยย ห้องที่เราจองมาคือห้องฝั่งตรงข้ามกับห้องที่อยาก แม่ !!! ร้องห้ายยย ฝันสลาย แต่ใช่ว่าห้องที่เราพักในทริปนี้จะไม่สวย ตัวห้องสวยมากกก (แค่เราอยากพักห้องนั้นมากกว่าไงงง)

BEACH FRONT B

มาดูห้องที่เราพักกันค่ะ ซึ่งห้องที่เราพักชื่อว่า BEACH FRONT B (และแน่นอนว่าห้องที่อยากพักคือ BEACH FRONT A )

ห้องเรากว้างมากค่ะ เข้ามาเราจะเจอกับมุมของเตียงนอนขนาดคิงไซค์ก่อนเลย ถัดมาจะเป็นมุมนั่งเล่น มุมโซฟา และ หน้าต่างที่ทำให้เรามองเห็นวิวตอนที่นั่งอยู่บนโซฟา

ต่อมาเป็นโซนห้องน้ำที่กว้างมาก โดยจะแยกโซนแห้งกับโซนเปียกไว้อย่างชัดเจน และมีมุมห้องแต่งตัวเข้ามาด้วย ความเริ่ดๆของที่นี่คือมีอ่างแช่ตัวที่สามารถมองวิวทะเลได้ด้วย

และอีกโซนที่เราชอบมากสำหรับห้องนี้ก็คือ มุมระเบียง เป็นมุมที่เราสามารถมานั่งเล่น ชมวิวทะเล หรือจะถ่ายรูปมุมระเบียงชิคๆสวยๆได้เลยค่ะ

ที่พักแห่งนี้มี paddle board หรือ เรือคายัค ให้เราสามารถทำกิจกรรมได้ฟรีด้วยค่ะ

และนอกจากจะได้สามารถทำกิจกรรมสนุกๆที่หาดหน้าที่พักแล้ว อีกหนึ่งมุมที่เหมาะกับการพักผ่อนก็คือที่สระของที่พักนี่แหละค่ะ

หากใครที่กำลังจะหนีเที่ยวสมุย กำลังมองหาที่พักสวย มุมถ่ายรูปปัง อยู่ริมทะเล เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ B House Samui

B House Samui

ที่อยู่ : 58,1, สุราษฎร์ธานี 84320

Tel : 098 671 7576

FB : https://www.facebook.com/Bhouse.samui/

Web : https://www.bhousethailand.com/bhouse-samui/

ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน 9 จุดเช็คอิน

ทริปนี้เราหนีเที่ยวไปภูเก็ตคนเดียวค่ะ เป็นทริปที่ตามใจตัวเองสุด อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรกิน อยากพักก็คือนอนนิ่งๆ มันเป็นความสุขของทริปหนีเที่ยวคนเดียว

ทริปนี้เราจะมาแนะนำ 9 ที่เช็คอินตามใจคนอยากหนีเที่ยวประมาณเรา

1.ขนมจีนสะพานหิน

ใครมาภูเก็ตหนึ่งเมนูที่เราอยากแนะนำคือ ขนมจีน เพราะขนมจีนที่ภูเก็ตถือว่าขึ้นชื่อมาก โดยเฉพาะความอร่อยและความหลากหลายของน้ำยา ทริปนี้เราอยากแนะนำร้านขึ้นชื่อของภูเก็ต ร้านนี้ก็คือ “ขนมจีนสะพานหิน” ร้านขนมนี้บรรยากาศสบายๆ มีเมนูน้ำยาให้เลือกทานเยอะ แต่เมนูที่เราชอบสุดก็คือ ขนมจีนน้ำยาปู ที่มาพร้อมกับผักแกล้มที่เยอะมาก ทานขนมจีนเสร็จแล้วก็แนะนำว่าต้องล้างปากด้วยขนมหวานซะหน่อย รับรองว่าคุณต้องอิ่มท้อง อร่อยปากแน่นอน

ขนมจีนสะพานหิน

ที่อยู่ : 66, 2 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000

เปิด : 8.30 – 19.00 น.

โทร : 083 175 5571

FB : https://www.facebook.com/KanomChinSaphanHin/

2. Aram coffee&crepe

คาเฟ่ในโซนกะตะที่เราชอบมาก เพราะที่นี่กาแฟดีมาก ตัวร้านเป็นการตกแต่งแบบมินิมอล ร้านใช้สีขาวและสีน้ำตาลตกแต่งเป็นหลัก ภายในร้านบรรยากาศแบบสบายๆ เราสามารถมานั่งเล่น หรือเอางานมาทำก็ได้ ส่วนตัวเราชอบที่นี่มากเพราะกาแฟอร่อย และบรรยากาศดีมาก

Aram coffee&crepe

ที่อยู่: ถนน กะตะ ตำบล กะรน อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83100

เปิด : 8.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)

โทร : 089 645 2222

FB : https://www.facebook.com/aramcoffeeandcrepes/

3. SkyView Resort Phuket Patong Beach

ที่พักหรูราคาน่าคบในโซนป่าตอง ที่พักแห่งนี้ไม่ได้ติดทะเลนะคะ แต่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่พักสบายมาก ห้องพักกว้าง เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนมากๆ ภายในโรงแรมมีมุมพักผ่อนเยอะ สระว่ายน้ำของที่นี่ออกแบบสไตล์ลากูนขนาดใหญ่ และใครมาพักที่นี่ในวันที่อากาศดีๆแดดสวยๆ เราแนะนำให้มาเล่นน้ำหรือจิบเครื่องดื่มกันที่ SPLASH Pool Bar ส่วนตอนเย็นเราแนะนำมาทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร The Dining Room อาหารเช้าของที่นี่จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 7.00-10.30 น. โดยจะเป็นแบบกึ่ง Buffet และ A la carte โดยเราสามารถเลือกทานอาหารได้แบบไม่อั้นเลยค่ะ และมีเมนูหลากหลายให้เราเลือกด้วย ส่วนรสชาติและวัสดุดิบก็ไม่ต้องห่วงเพราะว่าอร่อยมากกกและแต่ละเมนูคุณภาพจริงๆค่ะ

SkyView Resort Phuket Patong Beach

ที่อยู่ : 9, 19 ถนน พิศิษฐ์กรณีย์ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต 83150

Tel :  076 202 777

FB : https://www.facebook.com/skyviewpatong/

Web : https://skyviewhotel.com/phuket/th/

4.MOJJO ROOFTOP BAR

หนึ่งในบาร์สุดชิลของป่าตอง เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ MOJJO ROOFTOP BAR รูฟท็อปบาร์ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม SkyView Resort Phuket Patong Beach บาร์แห่งนี้เหมาะแก่การดื่มด่ำกับค่ำคืนอันสวยงามของเราในภูเก็ต และวันที่อากาศดีๆที่นี่ก็สามารถนั่งดูวิวอาทิตย์ตกได้ด้วยนะ นอกจากบรรยากาศที่นี่จะชิลมากแล้ว ที่นี่ก็มีเครื่องดื่มสไตล์คิวบารสชาติดีจากการสร้างสรรค์ของมิกโซโลจิสต์ที่มากประสบการณ์

นอกจากการตกแต่งร้านและแนวเพลงที่มีกลิ่นอายจากฝั่งละตินแล้ว แน่นอนว่าอาหารที่ MOJJO Rooftop Bar ก็ถูกสร้างสรรค์มาในสไตล์ละตินด้วยเช่นกัน รวมทั้งยังมีอาหารฟิวชันสไตล์อเมริกันใต้อีกหลากหลายเมนูด้วยนะ

MOJJO ROOFTOP BAR

ที่อยู่ : 9/19 Pisitkoranee, ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต 83150

เปิด : 18.00 – 00.00 น.

โทร : 076 202 777

FB : https://m.facebook.com/mojjorooftopphuket/

5. Lay Cafe Phuket

ที่นี่คือหนึ่งในคาเฟ่ภูเก็ตสำหรับสายเกาหลีที่เราอยากแนะนำ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นคาเฟ่ขนาดเล็ก แต่ด้วยทำเลของตัวคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมหาด ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ และด้วยการออกแบบคาเฟ่ที่ใช้สีขาวเป็นหลักพร้อมกับซิกเนเจอร์ของที่นี่คือกระจกบานใหญ่สีขาวที่มองยังไงก็เกาหลีทิพย์ชัดๆ กาแฟที่นี่อร่อยนะคะ มีขนมให้ทานด้วย ใครชอบคาเฟ่แนวเกาหลีเราแนะนำให้ปักหมุดที่นี่เลยค่ะ

Lay Cafe Phuket

ที่อยู่ : ซอย ร่วมใจ 1 ตำบล ราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83100

Time : 9.00-17.30 น. (วันอังคาร)

Tel :  080 041 9231

FB :https://www.facebook.com/laycafephuket/

6. เสื่อผืนหมอนใบ

คาเฟ่สไตล์แคมป์ปิ้งริมทะเล โดยคาเฟ่แห่งนี้จะอยู่โซนกะรน การเดินทางอาจจะลึกลับหน่อย แต่แนะนำว่าขับรถตาม Google maps ได้เลย ไม่หลงแน่นอนค่ะ บรรยากาศที่นี่ชิลมากค่ะ ยิ่งในวันอากาศดีๆ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่เราอยากแนะนำให้มาเช็คอิน เพราะเราสามารถนั่งเล่น มองทะเล ได้ตลอดทั้งวัน

เสื่อผืนหมอนใบ

ที่อยู่ : 10/1 Laemsai Road Tumbon, ตำบล กะรน Muang, ภูเก็ต 83100

Time : 10.30-19.00 น. (หยุดวันจันทร์)

Tel : 080 992 9983

FB : https://www.facebook.com/ablanketandapillow/

7. แหลมไทรคัพ

อีกหนึ่งคาเฟ่พิกัดลับสำหรับโซนกะรน ใครมาแถวนี้แล้วที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่เราอยากแนะนำให้แวะเช็คอิน ที่นี่บรรยากาศชิลมาก ยิ่งในวันที่อากาศดี ที่นี่เหมาะกับการนั่งเล่นชิลๆสบายๆได้ทั้งวันเลยค่ะ ใครไม่ชอบคาเฟ่ที่คนแน่นๆ และมองหาคาเฟ่ที่ได้มองเห็นทะเล มีลมปะทะหน้า เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ

แหลมไทรคัพ

ที่อยู่ :  8 ซอย แหลมไทร ตำบล กะรน อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83100

Time : 9.00-19.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)

โทร : 087 565 0212

FB : https://www.facebook.com/Laemsaicup/

8. Freedom Beach

Freedom Beach หาดลับภูเก็ต ที่นี่เราขอยกให้เป็นอีกหนึ่งหาดลับของภูเก็ตที่บรรยากาศสวยมาก และการเข้าถึงไม่ยาก (สักเท่าไหร่) เมื่อที่นี่เป็นหาดลับที่เข้าถึงไม่ง่ายนัก นั่นทำให้ Freedom Beach ยังเป็นหาดสวย และสงบมาก นักท่องเที่ยวน้อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นต่างชาติ คนไทยน้อยมาก วิธีการเดินทางลำบากเล็กน้อย โดยเราขอแบ่งวิธีเดินทางออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือการเดิน และ การนั่งเรือ (วิธีนี้ไม่เหนื่อย)

ทริปนี้เราเลือกวิธีการเดินเท้าด้วยตัวเองค่ะ โดยการเดินก็แบ่งออกเป็น 2 แบบอีก คือการเดินเท้าในทางส่วนตัวของเอกชน อันนี้เราจะต้องจ่ายเงินค่าเข้า 50 บาท กับ อีกทางซึ่งเป็นทางที่ชาวบ้านใช้กัน ไม่ต้องจ่ายค่าเข้า แต่อยากจะบอกว่าไปทางจ่ายเงินเถอะ เดินง่ายกว่ามากกกกกกกกก (แนะนำจากคนที่ลองมาแล้วทั้ง2ทาง และเกือบเอาตัวเองไม่รอดจากทางไม่จ่ายเงิน)

บรรยากาศภายในหาดดีมากกก มีร้านขายน้ำและของทานเล่นด้วยนะคะ พี่ๆน่ารักกับคนไทยมาก ใครมาภูเก็ตมีเวลาเหลือเราแนะนำว่า ฟรีด้อมบีช เป็นอีกหนึ่งหาดที่อยากให้คุณได้ลองมาสัมผัส แล้วจะได้เจอภูเก็ตในมุมที่ธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่

Freedom Beach

ที่อยู่ : ถนนศิริราช ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต 83100

9. Aquaria Phuket Thailand

Aquaria Phuket ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า เราแนะนำว่าให้ซื้อตั๋วสำหรับการเข้าชมไปล่วงหน้าเลยค่ะ เราซื้อจากแอป Trip.com ผู้ใหญ่ราคาคนละ 270 บาท ถือว่าเป็นราคาเข้าควาเรี่ยมที่คุ้มค่ามาก ภายในอวาเรี่ยมกว้าง เดินเพลินเลยค่ะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ใครมาเที่ยวภูเก็ตครั้งหน้า ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ เดินเพลินแน่นอน

Aquaria Phuket
ที่ตั้ง : Central Phuket
Ticket : 270 บาท (แนะนำให้ซื้อไปก่อนราคาจะถูกกว่าหน้างาน)
Time : 10.30 น. – 19.00 น.(เปิดเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 18.00 น.)

SkyView Resort Phuket Patong Beach

ช่วงนี้งานเหนื่อยมากค่ะ ถึงเวลาที่เราจะหนีเที่ยวไปพักผ่อนคนเดียวสักที ทริปนี้เราเลยปักหมุดทริปที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการกลับมาภูเก็ตในรอบครึ่งปีของเราเลยด้วย

SkyView Resort Phuket Patong Beach

ทริปนี้เราปักหมุดที่พัก SkyView Resort Phuket Patong Beach และตลอดเวลา 3 วัน 2 คืนเราจะพักที่นี่เลยค่ะ สำหรับที่พักแห่งนี้อยู่ในโซนป่าตองค่ะ ซึ่งถือเป็นโซนที่มีทุกสิ่งทุกอย่างครบมากสำหรับนักท่องเที่ยว

เมื่อมาถึงก็เช็คอินเข้าห้องพักกันค่ะ พี่ๆโรงแรมน่ารักมาก ช่วยจัดการเช็คอินให้เราอย่างรวดเร็ว

ทริปนี้เราพักห้อง 1-Bedroom Pool View Suite เป็นห้องที่อยู่ชั้น 5 ค่ะ

เปิดประตูเข้ามาคือตกใจมากกกก ห้องใหญ่มากกกก ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ 5555 บางคนมองค้อนแล้วว่าทริปเที่ยวคนเดียวอยู่ห้องใหญ่ทำไม ต้องบอกก่อนว่า ทริปไหนที่เรารู้สึกว่าเป็นทริปพักผ่อน เราอยากจะพักห้องแบบดีๆ ห้องแบบกว้าง ให้มันเหมาะกับความรู้สึกของเราในทริปนั้น

มาดูภายในห้องของเรากันดีกว่าค่ะ ห้องที่เราพักมีพื้นที่กว้างถึง 54 ตารางเมตร เราเลยขอแบ่งห้องนี้ออกเป็น 3 โซนด้วยกันคือ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และ ห้องน้ำ

มาดูโซนห้องนั่งเล่นกันค่ะ เพราะเมื่อเราเปิดประตูมาแล้วเราก็จะได้เจอกับส่วนนี้ก่อนเลย โซนนี้จะมีชุดโซฟา พร้อมด้วยทีวี มินิบาร์ ตู้เสื้อผ้าที่เราสามารถเปิดได้ทั้งฝั่งห้องนั่งเล่นและจากฝั่งห้องน้ำด้วย และโซนนี้ยังเชื่อมต่อกับระเบียงห้องด้วยค่ะ

โซนต่อมาคือโซนห้องนอนค่ะ ห้องนอนก็คือกว้างมาก นอกจากเตียงนอนขนาดคิงไซค์แล้ว ก็ยังมีมุมโต๊ะทำงาน และ โซฟาเบดอีกตัวอยู่ในห้องนอนด้วยค่ะ

สุดท้ายโซนที่เรามองว่าอลังการที่สุดคือ โซนห้องน้ำ เป็นโซนที่กว้างมากกกก ภายในห้องน้ำจะแบ่งโซนเปียกและแห้งกันอย่างชัดเจน และในห้องน้ำยังมีอ่างด้วยนะ สายชอบแช่อ่างต้องรักห้องนี้แน่

นอกจากพื้นที่ภายในห้องจะใหญ่มากกก สิ่งอำนวยความภายในห้องก็ครบมาก ไม่พอทางโรงแรมยังเตรียม welcome drink และ ช็อกโกแลต ไว้ให้เราในห้องด้วยนะคะ น่ารักมากกก

POOL

สระส่วนกลางของโรงแรมจะอยู่ชั้นเดียวกับล็อบบี้ สระว่ายน้ำของที่นี่ออกแบบสไตล์ลากูนขนาดใหญ่ และใครมาพักที่นี่ในวันที่อากาศดีๆแดดสวยๆ เราแนะนำให้มาเล่นน้ำหรือจิบเครื่องดื่มกันที่ SPLASH Pool Bar

สระส่วนกลางจะเปิดตั้งแต่ 7.00-20.00 น. เราสามารถใช้เวลาพักผ่อนในสระว่ายน้ำแห่งนี้ได้ เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ชิลมากในโรงแรมแห่งนี้

The Dining Room

The Dining Room คือห้องอาหารซิกเนเจอร์ของ SKYVIEW เปิดให้บริการทุกวันทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน รวมถึงมื้อเย็น

ห้องอาหารที่นี่มีเสิร์ฟทั้งเมนูอาหารไทยชั้นเยี่ยม อาหารนานาชาติและอาหารมังสวิรัติที่ดีต่อสุขภาพ โดยแต่ละเมนูถูกรังสรรค์มาจากประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ของหัวหน้าเชฟ ทำให้ The Dining Room เป็นอีกห้องอาหารที่อาหารอร่อยมาก

ใครมาพักที่นี่ไม่ได้ออกไปไหน เราแนะนำให้มาทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร The Dining Room เราแนะนำว่าบรรยากาศตอนค่ำกับการทานอาหารอร่อยริมสระน้ำภายในโรงแรมแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีมากเลยค่ะ

MOJJO ROOFTOP BAR

ใครมาพักที่นี่ กลางคืนไม่ได้ออกไปไหนแบบเรา เราแนะนำให้ขึ้นมาบนรูฟท็อปของโรงแรมกัน เพราะว่าที่นี่บาร์บรรยากาศสุดชิลรอเราอยู่

บาร์แห่งนี้เหมาะแก่การดื่มด่ำกับค่ำคืนอันสวยงามของเราในภูเก็ต และวันที่อากาศดีๆที่นี่ก็สามารถนั่งดูวิวอาทิตย์ตกได้ด้วยนะ นอกจากบรรยากาศที่นี่จะชิลมากแล้ว ที่นี่ก็มีเครื่องดื่มสไตล์คิวบารสชาติดีจากการสร้างสรรค์ของมิกโซโลจิสต์ที่มากประสบการณ์

นอกจากการตกแต่งร้านและแนวเพลงที่มีกลิ่นอายจากฝั่งละตินแล้ว แน่นอนว่าอาหารที่ MOJJO Rooftop Bar ก็ถูกสร้างสรรค์มาในสไตล์ละตินด้วยเช่นกัน รวมทั้งยังมีอาหารฟิวชันสไตล์อเมริกันใต้อีกหลากหลายเมนูด้วยนะ

หรือว่าใครที่ยังไม่อยากขึ้นมาบนบาร์ เราแนะนำอีกทางเลือกสำหรับคนชอบอยู่ในห้องแบบเรา คือการสั่ง room service

Breakfast

อาหารเช้าของที่นี่จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 7.00-10.30 น. โดยจะเป็นแบบกึ่ง Buffet และ A la carte โดยเราสามารถเลือกทานอาหารได้แบบไม่อั้นเลยค่ะ และมีเมนูหลากหลายให้เราเลือกด้วย

ส่วนรสชาติและวัสดุดิบก็ไม่ต้องห่วงเพราะว่าอร่อยมากกกและแต่ละเมนูคุณภาพจริงๆค่ะ

สุดท้ายใครกำลังจะหนีเที่ยวภูเก็ต ยังไม่รู้ว่าจะพักที่ไหนดี เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ SkyView Resort Phuket Patong Beach

SkyView Resort Phuket Patong Beach

ที่อยู่ : 9, 19 ถนน พิศิษฐ์กรณีย์ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต 83150

Tel :  076 202 777

FB : https://www.facebook.com/skyviewpatong/

Web : https://skyviewhotel.com/phuket/th/

HOLIDAY INN EXPRESS PATTAYA CENTRAL

พัทยา จุดหมายปลายทางที่เดินทางสะดวก ไปกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ

ทริปนี้เรามีเวลา 2 วัน 1 คืน เราเลือกพัทยาเป็นปลายทาง และเมื่อเวลาที่มีไม่มาก เราจึงขอเลือกเอาตัวเองไปอยู่ใจกลางเมืองพัทยากันไปเลย ทริปนี้เราพักที่ HOLIDAY INN EXPRESS PATTAYA CENTRAL โรงแรมในเครือ IHG ที่มีห้องพักราคาสบายกระเป๋า และที่สำคัญทำเลถือว่าเลิศมาก เพราะอยู่ในโซนเดินทางสะดวก ที่จอดรถเพียบ แถมยังมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสอีกด้วยนะ


Holiday Inn Express Pattaya Central

โรงแรมในเครือ IHG ตั้งอยู่ใจกลางพัทยา เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชอบความสะดวกสบาย แต่จ่ายในราคาสบายกระเป๋า และที่สำคัญโรงแรมยังเหมาะกับทุกกลุ่มลูกค้าอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น คู่รัก เพื่อน หรือ ครอบครัว ตอบโจทย์ทั้งหมด

เครดิตรูป : https://www.ihg.com/holidayinnexpress/hotels/th/th/reservation

มาตรการ Covid-19

หลายคนน่าจะกังวลว่าถ้าเราเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติเยอะ เราจะปลอดภัยมั้ย อยากจะบอกว่าทาง Holiday Inn Express Pattaya Central เห็นความสำคัญของเรื่องนี้สุดๆๆ โดยมาตรการ Covid – 19เริ่มตั้งแต่เข้ามายังในโรงแรมเลย

เราจะต้องสแกนไทยชนะ หากใครไม่สะดวกก็สามารถลงชื่อในแบบฟอร์มได้นะ

มีเจลแอลกอฮอล์ให้ล้างมือ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทุกจุด

มีกระบวนการวัดไข้แล้วแปะสติ๊กเกอร์ให้สำหรับแขกที่ผ่านการคัดกรองแล้ว

ทางโรงแรมใส่ใจเรื่องความสะอาดมากๆๆเลยนะ แม้แต่ปากกาที่เราใช้ในการกรอกแบบฟอร์ม เมื่อถูกใช้แล้วจะต้องใส่กล่องแยกเพื่อนำไปทำการฆ่าเชื้อโรค

เรานั่งเล่นอยู่บริเวณล็อบบี้นาน ทำให้เห็นว่าทุกครั้งที่มีแขกมาใช้บริการพื้นที่ส่วนรวม หลังจากนั้นจะมีพี่พนักงานมาทำความสะอาด เพื่อให้เราทุกคนปลอดภัยไร้เชื้อโรค

ชอบบบบบบบความใส่ใจจจจจ

ภายในโรงแรม

 Holiday Inn Express Pattaya Central เป็นน้องเล็กของ IHG สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมที่จัดไว้คือว่าดีงามมาก ไม่ว่ามุมโซฟานั่งเล่น คอมพิวเตอร์ที่เอาไว้ให้แขกที่พักสามารถใช้บริการได้ฟรี

Fitness 

ฟิตเนสแห่งนี้เป็นฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ใหม่มากกกก ถึงแม้จำนวนเครื่องออกกำลังกายจะไม่ได้เยอะมาก แต่รับรองว่าถูกใจสายออกกำลังกายแน่นอน

 Swimming Pools

แม้ว่าจะเป็นโรงแรมที่ขนาดไม่ใหญ่ แต่ด้านบน rooftop ก็มีสระว่ายน้ำส่วนกลางไว้บริการแขกที่เข้าพักนะคะ ถือว่าคุ้มมาก จ่ายเงินในราคาสบายกระเป๋าแต่สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมครบครัน

Room

ส่วนของห้องพักจะมีแบบเดียว แต่เราสามารถเลือกได้ระหว่างเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ส่วนเรามาเป็นทริปเพื่อนซี้ เลยขอเป็นห้องแบบเตียงคู่ ส่วนภายในห้องกว้างแบบโอเคเลยนะ มีโต๊ะสำหรับทำงาน มีทีวี ตู้เสื้อผ้า คือสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยค่ะ

เราชอบความใส่ใจที่มีให้เลือกหมอนด้วยนะ เพราะแต่ละคนชอบหมอนไม่เหมือนกัน และการได้หนุนหมอนที่เราชอบก็จะทำให้เราหลับสนิทยิ่งขึ้น

ส่วนของห้องน้ำ ขนาดไม่เล็ก มีฝักบัว เรนชาวเวอร์ กระจกแบบ I glass ด้วยนะ

DINING 

ในส่วนห้องอาหารของทางโรงแรมจะให้บริการแค่บริการอาหารเช้าเท่านั้น แต่ไม่ต้องห่วงค่ะว่าจะลำบาก เพราะว่าพัทยามีของอร่อยเยอะมากกกกกกกกกก ส่วนตัวเรานั้นขี้เกียจจะขับรถออกไปเอง เพราะอยากกินของอร่อยหลากหลายเกิน เลยใช้วิธีสั่ง Grab หรือ Food panda ดีกว่าค่ะ

และใครที่กลัวว่าเราจะสั่งอาหารมาทานในโรงแรมจะเป็นอะไรมั้ย โรงแรมจะว่ารึป่าว ต้องแอบๆๆซ่อนๆๆเอาเข้ามามั้ย บอกเลยหายห่วงงงงงง เพราะที่นี่นอกจากไม่ต้องหลบไม่ต้องซ่อนเอาอาหารมาทาน แถมเรายังสามารถขอจานกระดาษ ช้อนส้อมได้จากพนักงานเลยจ้า

น่ารักที่สุดดดดดดดดดดดดด

Breakfast 

อาหารเช้าของโรงแรม แม้มันจะไม่ได้อลังการ แต่ถือว่าครบทุกความต้องการเลยค่ะ และปริมาณที่ให้มากใครทานหมดคืออิ่มเลยล่ะ และอีกอย่างช่วงที่ลิเดียเดินทางเป็นช่วง New Normal จะเป็นแบบ A La Carte ใครอยากทานอะไรก็สามารถติ๊กเลือกในเมนูได้เลย

หากใครรีบต้องเดินทางต่อ มีธุระ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ทานอาหารเช้านะคะ เพราะทางโรงแรมจะมีบริการแก้วกระดาษ และถุงกระดาษ ให้เราเอาอาหารออกไปทานด้านนอกได้เลย นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นของ Holiday Inn Express เลยล่ะ

ทสรุป

HOLIDAY INN EXPRESS PATTAYA CENTRAL โรงแรมที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าพัก และการเดินทางต่อ เอาไว้สำหรับให้เราได้ไปตะลอนเที่ยวมาทั้งวัน แล้ว กลับเข้าโรงแรมที่พร้อมต้อนรับเราเสมอ เป็นที่พักที่สะดวก ปลอดภัย สะอาด และที่สำคัญสบายกระเป๋าสำหรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ

หากถามเราว่าเราชอบอะไรที่ HOLIDAY INN EXPRESS PATTAYA CENTRAL  เราคงตอบได้แค่ว่า เราชอบความสะดวก ความสบายที่โรงแรมมอบให้ ห้องพักที่มีทุกสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่เยอะ และไม่น้อยเกินไป โรงแรมมีฟิตเนส สระว่ายน้ำส่วนกลาง ยังไม่พอเรายังสามารถสั่งอาหารจากข้างนอกมาทานกันแบบเปิดเผย พนักงานที่พร้อมจะให้บริการทุกเมื่อ และที่สุดคืออาหารเช้าที่อร่อย และมีพร้อมสำหรับคนที่จะเดินทางต่ออีกด้วย เราว่าเท่านี้มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้รู้ว่าเราชอบอะไรที่นี่

หากใครสักคนที่กำลังจะมาเที่ยวพัทยา จุดหมายปลายทางของเราคือการตะลอนเที่ยวให้ทั่วเมือง แล้วกำลังมองหาโรงแรมที่พักดีๆๆ ราคาสบายกระเป๋า เราว่าคุณมองข้าม HOLIDAY INN EXPRESS PATTAYA CENTRAL ไปไม่ได้แล้วล่ะ

HOLIDAY INN EXPRESS PATTAYA CENTRAL 

Address :293/16 Moo 10, Nongprue, Banglamung, Chonburi 20150, Thailand

Tel :+66 (3) 326 5999

Facebookhttps://www.facebook.com/holidayinnexpresspattayacentral

เขื่อนแม่กวงอุดมธารา |ที่เที่ยวเชียงใหม่

ทริปนี้เราจะชวนทุกคนขับรถออกนอกเมืองเชียงใหม่มาหน่อยค่ะ เพราะจุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา

เราขอข้ามในส่วนของข้อมูลเขื่อนแบบวิชาการไปเลยแล้วกัน แต่จะมาเล่าในเรื่องความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวเนอะ

เขื่อนแม่กวงอุดมธารา นี้ เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเชียงใหม่ โดยที่ตั้งของ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จะล้อมรอบด้วยป่าและภูเขา ทำให้ที่นี่มีวิวที่สวยมาก

การเดินทาง : วิธีการเดินทางไม่ยากเลยค่ะ ให้เราขับรถตาม google maps มาได้เลย ไม่หลงแน่นอน

จุดถ่ายรูป : เราแนะนำ 2 จุดถ่ายรูปที่วิวสวยมากค่ะ

  1. เขื่อนหลัก

วิธีเดินทาง: ให้เราขับตามป้ายบอกทางภายในเขื่อนที่เขียนว่า “เขื่อนหลัก”

บริเวณนี้จะเป็นวิวมุมกว้างของเขื่อนที่เราจะได้เห็นภูเขาสลับซับซ้อนกัน และมีผืนน้ำกว้างขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า และบริเวณนี้จะมีที่จอดรถบริเวณสันเขื่อน ให้เราสามารถเดินเล่นมาถ่ายรูปได้ค่ะ

2. สะพานเชื่อมใจ

วิธีเดินทาง : ให้เราขับรถตามป้ายบอกทาง ท่าเรือ หรือ สะพานเชื่อมใจ

โดยเขื่อนแม่กวงจะมีเรือให้บริการพาชมเขื่อนด้วยนะคะ ทริปนี้เรายังไม่ได้ใช้บริการ แต่จะพาทุกคนไปถ่ายรูปที่สะพานเชื่อมใจกันค่ะ

 สะพานแขวนเชื่อมใจ เป็นสะพานสำหรับเชื่อมหมู่บ้านป่าสักงามที่อยู่บริเวณหลังเขื่อนแม่กวง กับฝั่ง อำเภอดอยสะเก็ด ทำให้ชาวบ้านเดินทางได้สะดวกขึ้น

และด้วยวิวบริเวณนี้เป็นวิวที่สวยมากค่ะ ทำให้บริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินภายในเขื่อนแม่กวงที่เราแนะนำว่าใครมาแล้วห้ามพลาด

สำหรับใครที่จะถ่ายรูปที่สะพานเชื่อมใจ เราแนะนำว่าให้จอดรถไว้ที่ตีนสะพานฝั่งไหนก็ได้ แล้วเดินมาที่ตัวสะพานเชื่อมใจค่ะ เพราะบริเวณสะพานจะมีจุดสำหรับชมวิวด้วย บริเวณนี้จะไม่ขีดขว้างทางรถค่ะ ปลอดภัยและได้รูปสวยแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังจะหนีเที่ยวเชียงใหม่ กำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ๆ แนวธรรมชาติ เดินทางไม่ยาก ใช้เวลาขับรถประมาณ 45 นาทีจากตัวเมืองเชียงใหม่เท่านั้นเอง เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ “เขื่อนแม่กวงอุดมธารา”

(mini review) : TWO – โท: Bed and Cafe | ที่พักมินิมอลเชียงใหม่

ฝนกำลังมา

เชียงใหม่ก็เริ่มเรียกหาเราแล้วเช่นกัน

ทริปเชียงใหม่ล่าสุดของเรามาพักกันที่นี่ค่ะ TWO – โท: Bed and Cafe โดยทำเลของที่พักในทริปนี้ก็คือว่าดีมาก เพราะตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งศรีภูมิ คูเมืองด้านใน

ต้องบอกก่อนว่าใครมีรถยนต์จะต้องจอดริมถนนหน้าที่พักนะคะ ส่วนเราเช่ามอไซต์เลยไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ สบายมาก

ที่นี่จะมีห้องพักให้เราเลือก 2 แบบ อธิบายง่ายๆคือห้องที่มีอ่าง กับ ไม่มีอ่าง ส่วนตัวเราเลือกห้องไม่มีอ่าง เพราะคิดว่าไม่น่าจะได้อยู่ห้องสักเท่าไหร่แน่นอน

ห้องที่เราได้จะเป็นห้องชั้น 2 ราคาคืนละ 1190 บาท มีอาหารเช้าสำหรับ 2 คนด้วยนะคะ

และต้องสารภาพตามตรงว่า เราจองที่นี่มาเพราะชอบความมินิมอล มันดูสวย แค่นั้นเลย เมื่อมาถึงคือว้าวมากกก ห้องใหญ่มากกก กว้างมากเลยค่ะ เตียงนุ่ม ผ้าห่มดี มีโซฟา มุมพักผ่อน ระเบียงสามารถออกไปเห็นวิวคูเมือง

มาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ เพราะว่าโซนห้องน้ำก็ใหญ่มากเหมือนกัน ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกและแห้งแบบชัดเจน ที่สำคัญการตกแต่งก็ยังคลีนๆ มินิมอลเหมือนเดิม

เราชอบที่นี่มากกกก นอกจากจะนอนสบาย ทำเลดีแล้ว แสงก็สวย ถ่ายรูปออกมาน่ารักมาก

ที่นี่นอกจากเป็นที่พักน่ารักๆแล้ว ชั้นล่างยังเป็นคาเฟ่อีกด้วยนะคะ โดยตัวคาเฟ่จะเปิด 8.00-17.00 น. และตอนเช้าเราก็จะลงมาทานอาหารเช้ากันที่คาเฟ่ค่ะ

โดยอาหารเช้าของที่นี่คือ เครื่องดื่ม(กาแฟ) 1 แก้ว + ครัวซองต์ 1 ชิ้น ต่อคน หลายคนอาจจะคิดว่าน้อย เป็นมื้อเช้าแบบเบาๆให้เราเริ่มต้นวันที่ดีในเชียงใหม่กันค่ะ

สำหรับใครจะมาเชียงใหม่ กำลังหาที่พักในเมือง อยากพักห้องแบบมินิมอล น่ารักๆ เราแนะนำที่นี่เลยค่า หนึ่งในลิสต์ที่พักเชียงใหม่ที่อยากให้มาลอง

TWO – โท : Bed & Cafe

Address : เลขที่ 3/2 ถนนศรีภูมิ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ 50200

Tel :  082 622 4080

FBhttps://www.facebook.com/twocafechiangmai/

Blue Lotus Hua Hin | พูลวิลล่าฟีลพักผ่อน ปราณบุรี

ทริปนี้เราจะชวนไปพักพูลวิลล่าสวยๆ ชิลๆ ราคาไม่แรง แต่ทุกอย่างคือดีงามมาก

ไม่รอช้าแพ็คกระเป๋าแล้วขับรถมุ่งหน้าไปปราณบุรีกันค่ะ

Blue Lotus Hua Hin

เดิมเราเคยไปพักที่นี่มาแล้วตอนที่ยังใช้ชื่อ Evason เป็นอีกหนึ่งที่พักที่ประทับใจมาก วันนี้เขาเปลี่ยนชื่อเป็น Blue Lotus เราก็ไม่รอช้ากลับมาใช้บริการกันอีกครั้งในชื่อใหม่

กลับมาอีกครั้งที่นี่ยังเหมือนเดิม ทั้งในส่วนของห้องพัก พนักงาน และการบริการ ที่นี่ยังคงทำให้เราตกหลุมรักได้เช่นเดิม ในเรื่องของการบริการและความเงียบสงบของโรงแรม

มาครั้งนี้เราเลือกพักห้องแบบ Pool Villa เพราะอยากเล่นน้ำในห้องโดยไม่ต้องเดินไปที่สระส่วนกลาง จริงๆสระส่วนกลางที่นี่ใหญ่และน่าเล่นมากเลยค่ะ แต่ด้วยขนาดพื้นที่ภายในรีสอร์ทที่กว้างมาก จะเดินไปเล่นน้ำที่สระส่วนกลางที เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ดังนั้นคนเนิบนาบแบบเราเลือกห้องที่มีสระในห้องไปเลย ชิลดี

Pool Villa

เราพักพูลวิลล่าขนาด 1 ห้องนอน ด้วยขนาดของตัววิลล่ากว้างถึง 110 ตารางเมตร ทำให้ภายในวิลล่าเราใหญ่มาก เริ่มโซนแรกที่ห้องนอนก่อนเลยค่ะ เตียงขนาดคิงไซส์ที่มีโซฟาเบดอยู่ข้างๆ ใครที่มากัน 3 คนแบบเรา อีกคนที่จะนอนเตียงเสริม ทางรีสอร์ทก็จะเปลี่ยนโซฟาตัวใหญ่ให้เป็นเตียงค่ะ

โซนห้องนอนจะกว้างมากเลยค่ะ มีมุมพักผ่อน ตู้เสื้อผ้า มินิบาร์ ทีวี รวมถึงโต๊ะทำงานรวมอยู่ในโซนนี้ด้วย อีกทั้งห้องนอนเมื่อเปิดประตูบานใหญ่ก็จะเชื่อมต่อกับสระส่วนตัวในวิลล่าได้เลย

ถัดจากห้องนอน เราพามาดูห้องน้ำกันค่ะ โซนห้องน้ำถือว่ากว้างมากเช่นกัน แยกระหว่างโซนเปียกและแห้งอย่างชัดเจน และที่เราชอบสุดก็คือมีประตูที่เชื่อมโซนเปียกกับโซนสระส่วนตัวด้วย ทำให้เมื่อเราเล่นน้ำ หรือ แช่น้ำในอ่างแล้วก็สามารถเข้ามาในห้องน้ำได้เลย โดยไม่ต้องเดินผ่านโซนอื่นค่ะ

ส่วนโซนสุดท้าย ไฮไลท์ของห้องนี้เลยก็คือ โซนสระส่วนตัว โดยโซนนี้จะมีสระขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป อ่างสำหรับแช่น้ำ พร้อมกับมุมพักผ่อน เราชอบพูลวิลล่าของที่นี่เพราะทุกโซนเขาทำพื้นที่ไว้กว้าง ทำให้ผู้มาเข้าพักอย่างเรารู้สึกไม่อึดอัด เหมาะกับการมาพักผ่อน

ช่วงที่เราไปพักฝนตกตลอดเลยค่ะ แต่ก็จะได้บรรยากาศเย็นๆ ชิลๆ หน่อย ภายในโรงแรมต้นไม้ก็จะเขียวเข้มๆ เลย ดีนะที่เลือกห้องแบบพูลวิลล่าถึงฝนตกก็ยังเล่นน้ำได้สบายๆ

ตอนกลางคืนก็เล่นน้ำได้ตลอด พักพูลวิลล่ามันดีแบบนี้แหละ อิอิ

ตื่นเช้ามาก็ไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารของรีสอร์ทกันค่ะ จะเล่าว่าเราประทับใจอาหารเช้าของที่นี่ตั้งแต่ตอนที่เป็น Evason ครั้งนี้ Blue Lotus ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง อาหารเช้าที่นี่อลังการมาก มีอาหารให้เลือกได้เยอะมาก รสชาติอร่อยมากด้วยค่ะ

สุดท้ายใครกำลังหาที่พักปราณบุรี ห้องแบบพูลวิลล่าที่ราคาไม่แรงมากนัก แต่ห้องดีมาก อาหารเช้าอลังการ การบริการแบบ 5 ดาว เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ Blue Lotus Hua Hin

Blue Lotus Hua Hin

Address : 9 หมู่ 5 ปากน้ำปราณ , ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77220

Tel : 032632111

Facebook : https://www.facebook.com/bluelotushuahin

Web :https://bluelotushuahin.com/

นั่งรถไฟไปเชียงใหม่ | ขบวนที่51 รถไฟสายเหนือ

” เมื่อปลายทางคือรถไฟ ระหว่างทางคือเชียงใหม่ “

ประโยคด้านบนเราไม่ได้พิมพ์ผิด หรือพิมพ์สลับกันแต่อย่างใด แต่เราหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ เราเคยมีความฝันอยากนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ตั้งแต่ตอนอายุ 8 ขวบ เราจำความฝันนั้นได้ดี อาจจะคิดว่าเด็ก 8 ขวบจะฝันอยากเดินทางแล้วหรอ เราเวอร์ไปรึป่าว

ต้นเหตุความฝันของเด็กหญิงวัย 8 ขวบคนนั้น มาจากพ่อของเธอ ที่มักจะเล่าประสบการณ์การเดินทางออกจากบ้านไปเรียนยังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ พ่อเล่าว่าในยุคของพ่อนั้น พาหนะในการเดินทางที่นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้ก็คือรถไฟ

เรายังจำน้ำเสียงของพ่อได้เวลาที่เล่าเรื่องนี้ มันแฝงไปด้วยความตื่นเต้นของเด็กหนุ่มที่ต้องจากบ้านเกิดที่อยู่ในภาคใต้แล้วออกเดินทางไปกับรถไฟสายความฝันและความหวังไปยังภาคเหนือ

เราคือเด็ก 8 ขวบคนนั้นที่ฝันอยากจะนั่งรถไฟไปเชียงใหม่แบบที่พ่อเราเคยนั่งและเคยเล่าให้เราฟัง

เราใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะได้ทำความฝันของเด็กหญิงวัย 8 ขวบในอดีต อาจจะด้วยความสะดวกสบายของพาหนะชนิดอื่นทำให้เราเก็บความฝันในการนั่งรถไฟเอาไว้เนิ่นนานจนล่วงมาถึงตอนนี้

ในที่สุดวันหนึ่งในเดือนมิถุนายน 2565 เราก็ตัดสินใจจองตั๋วรถไฟสายเหนือขบวนที่ 51 เพื่อที่จะเดินทางไปเชียงใหม่ ในปัจจุบันรถไฟที่มีต้นทางจากกรุงเทพ ปลายทางเชียงใหม่ มีให้เราเลือกเดินทางได้หลายขบวน แต่ขบวนที่เราเลือกกลับเป็นขบวนที่ 51 ขบวนสุดท้ายของวันที่จะพาผู้โดยสารเดินทางไปยังปลายทางเชียงใหม่

ขบวนนี้ออกเดินทางจากกรุงเทพช่วงเวลา 22.00 น. เป็นการเดินทางดึกที่จะไปถึงเชียงใหม่ในช่วงเที่ยงวัน เลยเป็นขบวนที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกเดินทางเพราะมันเสียเวลาเที่ยวในเชียงใหม่ไปครึ่งวัน แต่มันคือขบวนที่เราอยากนั่งไปเชียงใหม่ เพราะมันจะเป็นขบวนที่ไม่ใช่แค่พาเราไปถึงปลายทาง แต่เราจะได้เห็นระหว่างทางของเส้นทางรถไฟสายเหนือ

มันเลยเป็นที่มาของทริปนี้ “ปลายทางคือรถไฟ ระหว่างทางคือเชียงใหม่” เรากับเชียงใหม่เจอกันบ่อยนัก แต่ละปีเราเจอเชียงใหม่น่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้นั่งรถไฟสายเหนือไปเชียงใหม่ เราเลยขอให้เวลากับมันหน่อยนะ

ทริปนี้เราจองตั๋วรถไฟผ่านทางออนไลน์ https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home ก่อนจะเดินทางแนะนำให้ปริ๊นตั๋วมาด้วยเพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องตรวจตั๋วจะได้สะดวก ทริปนี้เราเดินทางกับเพื่อนอีกคน เพื่อนที่มีความฝันอยากนั่งรถไฟสายเหนือเหมือนกัน

(บทความนี้รูปที่เราใช้ทั้งหมดจะเป็นรูปจากกล้องฟิล์มนะคะ)

เรานัดกับเพื่อนที่สถานีชุมทางบางซื่อ (สถานีอันเดิม) โดยรถไฟขบวนที่51 จะมาถึงสถานีนี้ตอน 22.24 น. และรถไฟก็มาถึงตรงเวลาอย่างไม่น่าเชื่อ

ตู้โบกี้ที่เราจองมาเป็นตู้สุดท้ายของขบวนนี้ คือตู้นอนแอร์ชั้น 2 (บนท.ป.36 : รถโบกี้นั่งและนอน ชั้น 2 ปรับอากาศ) สำหรับผู้หญิงที่จะเดินทางแบบเรากับเพื่อน หรือผู้หญิงที่จะเดินทางคนเดียว เราแนะนำให้จองตู้นี้นะคะ เพราะเป็นตู้ที่อยู่สุดท้าย ไม่มีใครเดินผ่าน และเป็นตู้ที่จะมีผู้โดยสาร (เต็ม) แค่ 36 คน เท่านั้น ราคาเตียงล่าง 821 บาท เตียงบน 751 บาท

ขึ้นมาบนขบวนก็แปลกใจนิดหน่อย เพราะครึ่งของโบกี้เราคือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แบ็คแพ็คทั้งนั้น เมื่อขึ้นมาถึงที่นั่งของเราก็เปลี่ยนเป็นเตียงเรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้มัน 4 ทุ่มกว่าแล้วเนอะ เรากับเพื่อนนั่งเล่นกันอีกนิดหน่อย ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน

ใครเดินทางด้วยขบวนที่ 51 เราแนะนำว่าขึ้นมาแล้วก็ให้หลับกันไปยาวๆ แล้วค่อยไปตื่นอีกทีประมาณ 7 โมงกว่าๆไปเลย ช่วงที่จะเริ่มเข้าจังหวัดอุตรดิตถ์ ช่วง “สถานีศิลาอาสน์” เพราะช่วงนี้เราจะเริ่มเห็นภูเขาที่ทอดยาวขนานไปกับทางรถไฟบ้างแล้ว

กาแฟมั้ยค่ะ กาแฟมั้ยค้าาาา

กาแฟสองแก้วค่ะ

เราตอบกลับตามเสียงเรียกของคุณยายที่ขึ้นมาขายกาแฟบนขบวนรถไฟ (ถ้าใครนั่งรถไฟใหม่จะไม่ได้เจอแบบนี้นะ) เสน่ห์อีกอย่างของรถไฟไทย ก็คือการที่เรานั่งรถไฟไปยังสถานีไหนแล้วเราจะได้ลุ้นว่าสถานีนั้นจะมีแม่ค้าพ่อค้ามาขายอะไร

หลังได้กาแฟแบบ 3 in 1 กันไปคนละแก้ว สติก็เริ่มมา และฟ้าก็เริ่มสว่างมากขึ้นแล้วเช่นกัน เรากับเพื่อนเลยขอเดินพาตัวเองย้ายไปยังตู้ที่เป็นพัดลมเพราะ เราจะสามารถถ่ายรูปได้สะดวก (ใครที่จะทำแบบเราแนะนำเอาของมีค่าติดตัวมาด้วยทุกเวลาจะเดินไปไหนมาไหนนะคะ)

เราเดินมานั่งเล่นที่ตู้ชั้นสองนั่งแบบพัดลม ตู้นี้มีผู้โดยสารที่ประเมินด้วยสายตาไม่น่าจะเกิน 6 คน

ใครที่จองตู้นอนแอร์แบบเรา เมื่อฟ้าสว่างแล้วจะมานั่งเล่นที่ตู้อื่นก็ทำได้นะคะ โดยปกติรถไฟเราสามารถเดินไปไหนก็ได้อยู่แล้ว แค่ไม่ควรไปยืนตรงรอยต่อขบวนก็เท่านั้น

เราเดินมาเจอคุณยายที่ขายกาแฟให้เราเมื่อเช้า เลยบอกยายว่า หนูอยากมาถ่ายรูปค่ะ ยายเลยแนะนำว่า ฝั่งขวาคือฝั่งที่สวย เลยจากเด่นชัยไปเราจะเจอกับแก่งหลวงนะ ถ้าช่วงที่น้ำเต็มมันจะสวยมากๆ คุณยายบอกเราอย่างนั้น พร้อมกับช่วงเปิดกระจกรถให้ลงสุดเราจะได้ถ่ายรูปได้ถนัด

เราชอบนั่งรถไฟเพราะชอบดูวิวข้างทาง และเวลารถเลี้ยวก็ชอบจะยื่นหัวออกไปมอง 5555 มันสวยนะเวลาที่เห็นโบกี้ต่างๆกำลังเลี้ยวโค้ง เหมือนหนอนอะไรสักอย่าง

ระหว่างเราบอกตัวเองว่า ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงวันที่เราได้ทำตามความฝันนั้นได้สำเร็จ เราไม่ได้อยากรีบถึงเชียงใหม่ ไม่ได้อยากรีบไปเที่ยวต่อ แต่เราอยากเห็นวิวสวยๆนอกหน้าต่างมากกว่า

ไม่นานนัก เราก็มาถึงสถานีเด่นชัย รถไฟเราที่นี่อยู่นาน นานจนเราคิดว่ารอรถสวนรึป่าว แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะกำลังสนุกกับการถ่ายรูปอยู่

หลังจากที่รถจอดที่สถานีเด่นชัยเวลาล่วงไปแล้วเกือบ 30 นาที นายสถานีก็ประกาศว่ารถไฟขบวนที่51 มีปัญหา ทำให้ต้องมีการซ่อม ซึ่งอาจจะทำให้ใช้เวลาประมาณ 60 นาที แนะนำให้ผู้โดยสารลงมานั่งเล่นที่สถานีก่อน

สำหรับคนส่วนใหญ่คงไม่ชอบใจนักเมื่อการเดินทางของเรา มันคลาดเคลื่อนไป เวลาที่คิดว่าจะต้องไปถึงมันกลับโดนเลื่อนออกไป แพลนต่างๆของเราก็ต้องขยับไปเป็นแถว

แต่สำหรับในการเดินทางครั้งนี้ เราไม่มีความหงุดหงิดแม้แต่น้อย เราใช้เวลาที่รถซ่อมหมดไปกับการถ่ายรูป ดูเป็นนักท่องเที่ยวที่สนุกกับการเดินทางแบบเกินหน้าเกินตาไปหน่อย

หลังจากครบ 60 นาที นายสถานีประกาศอีกครั้งให้ผู้โดยสารทุกคนขึ้นรถเตรียมพร้อมออกเดินทางได้ ในอีก 15 นาที

ออกจากสถานีเด่นชัย เราย้ายตัวเองไปอยู่ฝั่งขวาของขบวนตามคำบอกเล่าของคุณยายแม่ค้า ก่อนจะถึงแก่งหลวง บรรยากาศข้างทางเต็มไปด้วยสีเขียวสดใสของต้นไม้ใบหญ้าในช่วงเริ่มต้นฤดูฝน

เราชอบข้างทางของเส้นทางรถไฟสายเหนือ เพราะมีภูเขาที่ทอดยาวและคอยขนานไปกับเส้นทางรถไฟอยู่ตลอด

ยายบอกว่าเราจะได้เจอกับแก่งหลวง ช่วงนี้น้ำยังไม่เยอะ ถ้าช่วงน้ำเยอะที่นี่จะสวยมากเลยนะ

ตลอดเส้นทางสายนี้เรายังเป็นนักท่องเที่ยวตัวซนที่ย้ายที่นั่งไปมาอย่างยุกยิ๊กไปหมด ก็วิวสองข้างทางเส้นทางสายนี้มันสวยนี่น่า

สถานีบ้านปิน สถานีที่มีรูปทรงแปลกตา เราไม่ได้มีความรู้เรื่องอาคาร แต่สายตาบอกว่าที่นี่สะดุดตา บ้านหลังสีส้มที่อยู่กลางป่า

รถไฟยังคงเดินทางต่อหลังจากที่หยุดพักเพราะต้องซ่อมแซมเกือบ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางต่อจากนี้เป็นช่วงป่าเขาที่จะอยู่กับเราไปตลอด

สิ่งหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้คนที่เดินทางด้วยรถไฟเอาติดกระเป๋ามาด้วยก็คือหนังสือ หนังสือเล่มที่เราพยามอ่านที่บ้านอยู่นานสองนานก็ไม่จบหน้าสักที (อย่าว่าแต่จบเล่มเลย) เมื่อเราเดินทางด้วยรถไฟ มันจะมีบางช่วงที่สัญญาณโทรศัพท์นั้นหายไป ทำให้เรากลับมาจดจ่อกับตัวเอง รวมถึงมันจะมีช่วงเหม่อ ช่วงที่รถไฟผ่านป่ารกที่ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้น เราจะได้หยิบหนังสือที่เราเอาติดกระเป๋าออกมาอ่าน และมันน่าแปลกมากเมื่อหนังสือเล่มนั้นกลับสนุกขึ้นกว่าตอนที่เราอ่านที่ห้องมากนัก

เพราะการเดินทางทำให้ความคิดเราลื่นไหล หลายๆอย่างที่เราอยู่ที่บ้านเราคิดไม่ออก หรือเราไม่รู้สึก แต่มันจะออกมาเมื่อเราออกเดินทาง

เดินทางต่อ

จากบ้านปิน รถไฟกำลังเข้าสู่จังหวัดลำปาง โดยจังหวัดนี้รถไฟขบวนนี้จะจอดเริ่มที่สถานีแม่เมาะ เรายังไม่เคยมาเที่ยวลำปางเลยค่ะ แต่มีคนเคยบอกว่าให้ลองมาแม่เมาะนะ เพราะที่นี่อากาศดี วันนี้ได้แค่นั่งรถไฟผ่านก่อนไว้วันหน้าเราจะมาเที่ยวให้ได้เลย

เมื่อเข้าสู่จังหวัดลำปาง เราจะได้เห็นเทือกเขาขนาดใหญ่ที่อยู่ขนานกับทางรถไฟ เป็นภาพที่ชอบมากเลยค่ะ

รถไฟจอดสถานีนครลำปางตอนเวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ สิ่งแรกที่เรารู้สึกได้ไม่ใช่ความร้อนของอากาศ แต่เป็นความหิว ช่วงเที่ยงจะมีพ่อค้าแม่ค้าขึ้นมาขายอาหาร หรือเมนูไก่ย่างข้าวเหนียว ข้าวเหนียวหมูปิ้ง พอให้เราได้รองท้องพอหายหิว

เราเดินทางกันต่อมุ่งหน้าสู่สถานีขุนตาน

ขุนตานเป็นช่วงอุโมงค์รถไฟไทยที่มีความยาวมากที่สุดในตอนนี้ โดยเมื่อเรามาจากกรุงเทพก่อนที่รถจะจอดที่สถานีขุนตาน เราจะได้เข้าอุโมงค์ขุนตานก่อน ซึ่งช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่รถมืดเกือบ 5 นาที ก่อนจะมาหยุดที่สถานีขุนตาน

ขุนตานเป็นสถานีแรกในเขตจังหวัดลำพูนที่รถไฟขบวนที่51 จะหยุด และเดินทางต่อมาหยุดที่สถานีลำพูน โดยเราจะเริ่มเห็นข้างทางที่เปลี่ยนไปจากภูเขาที่ทอดยาวขนานทางรถไฟ เริ่มเป็นบ้านเรือนสมัยใหม่มากขึ้น

เมื่อถึงสถานีลำพูน ผู้โดยสารหลายคนเริ่มทยอยลงกันที่สถานีนี้ และใครที่จะลงสถานีเชียงใหม่แบบเรา ก็เริ่มต้องเก็บสัมภาระกันได้แล้ว เพราะอีกประมาณ 20 นาทีเราก็จะถึงสถานีเชียงใหม่แล้ว

สถานีนครเชียงใหม่

ในที่สุดเราก็พาตัวเองมาถึงเชียงใหม่ด้วยรถไฟสายเหนือได้แล้ว (และรถไฟก็พาเรามาถึงเช่นกัน) หลังจากกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ประจำตู้ที่คอยอำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง (โดยเฉพาะตอนที่เราพยามถ่ายรูป) ขอบคุณคุณปู่รถไฟที่พาเรามาถึงแม้จะเลทไป 2 ชั่วโมงก็ตาม และขอบคุณตัวเองที่ในที่สุดเราก็ทำตามความฝันของเด็กผู้หญิงวัย 8 ขวบในอดีตได้สำเร็จ แม้ความฝันนั้นจะถูกเติมเต็มด้วยผู้หญิงวัย 29 ก็ตาม

เราหวังว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นในอดีตจะดีใจที่วันนี้ความฝันในวันเด็กที่เกี่ยวกับความหลงรักการเดินทางในช่วงวัยนั้น จะก่อตัวมาจนเป็นเราที่ชอบหนีเที่ยวมากๆในวันนี้ สำเร็จสักที

ทริปนี้อาจจะไม่ใช่ทริปที่ดูน่าจะพิศมัยกับคนที่ต้องการความสะดวก สบาย ต้องการความรวดเร็ว แต่ทริปนี้คือทริปของคนที่มีความฝันว่าครั้งนึงอยากนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ ที่ไม่ใช่แค่การใช้รถไฟเป็นยานพาหนะ แต่คือการเดินทางด้วยรถไฟที่มีวิวสองข้างทางจากพื้นที่ภูมิประเทศของภาคเหนือเป็นเพื่อนร่วมทาง


จองตั๋วรถไฟแบบออนไลน์ได้ที่ : https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home

ขาไป (กรุงเทพ – เชียงใหม่)​: แนะนำนั่งฝั่งขวา

ขากลับ (เชียงใหม่ – กรุงเทพ) : แนะนำนั่งฝั่งซ้าย