Hong Kong | 4 วัน 3 คืน

ฮ่องกงประเทศที่เราหนีเที่ยวบ่อย เป็นจุดหมายปลายทางที่เดินทางง่าย เที่ยวได้สบาย มีตั้งแต่ของกินอร่อย มุมชิคๆ วัดดัง ไปจนถึงสวนสนุกระดับโลก ทำให้ฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ใครๆก็อยากจะมาให้ได้

ทริปนี้เรามีเวลาเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน เป็นการได้กลับมาฮ่องกงอีกครั้งในรอบ 5 ปี ทริปนี้เลยได้มีโอกาสไปอัพเดทคาเฟ่ แหล่งที่เที่ยว และการเดินทางไปฮ่องกงมาฝากทุกคนกันค่ะ

Hong Kong Airline

ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน Hong Kong Airline เดิมทีเราเคยเดินทางด้วยสายการบินไปฮ่องกงมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก่อนหน้านี้เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี เลือกที่นั่งได้ และมีอาหารเสิร์ฟ ซึ่งจะบอกว่าสายการบินนี้คือ สายการบินฟูลเซอร์วิช ที่ราคาน่ารักก็ว่าได้

แต่ในปัจจุบัน เราไม่สามารถโหลดกระเป๋าได้ (ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มเท่านั้น) แต่บนเครื่องจะมี snack และเครื่องดื่มบริการนะคะ

โดยรวมเราชอบเวลาของสายการบินนี้ ไฟล์ทไปถึงฮ่องกงเช้าเที่ยวต่อแบบไม่เสียเวลา และขากลับก็มีให้เราเลือกเยอะ ส่วนของที่นั่งถือว่ากำลังดี มีจอ ถ้าได้โหลดกระเป๋าฟรีด้วยจะเริ่ดมาก

การเดินทางเข้าฮ่องกง

ปัจจุบัน (อัพเดท ก.พ. 2566) การเดินทางเข้าฮ่องกง ไม่ต้องแสดงเอกสารใดๆ เมื่อไปถึงเราแค่กรอกฟอร์มของ ต.ม. แล้วก็ผ่านสามารถเข้าประเทศได้เลย

ตอนที่เราเข้าฮ่องกงทริปนี้ ต.ม. ไม่ถามอะไรเลย ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเราก็พร้อมเที่ยวได้เลย

ที่พัก

ทริปนี้เราพักที่ Metropark Hotel Mongkok ที่พักที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เมื่อเราค้นหาว่าจะไปพักที่ไหนดีในฮ่องกง เราจองที่พัก 3 คืนในราคาประมาณ 7000 บาท หารกับเพื่อน 2 คน ถือว่าเป็นที่พักที่ราคาน่ารักมาก ทำเลดีเดินทางสะดวก และ ห้องกว้าง (กว่าห้องในฮ่องกงทั่วไป)

ข้อดีของ Metropark Hotel Mongkok

  • เดินทางสะดวก สามารถนั่งรถเมล์สาย A21 มาจากสนามบินลงหน้าโรงแรมได้เลย
  • ใกล้ป้ายรถเมล์ และ สถานีรถไฟฟ้า
  • ราคาคืนละ 2500 – 4000 บาท (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา)
  • อยู่ในย่านมงก๊ก

ข้อเสียของ Metropark Hotel Mongkok

  • ห้องพักเต็มเร็วมาก
  • ขากลับสนามบิน ถ้าจะกลับด้วยรถเมล์จะต้องไปต่อรถ ยากกว่าขามาจากสนามบินหน่อย

บัตรปลาหมึก หรือ Octopus

สำหรับใครที่ต้องการจะซื้อบัตรปลาหมึกหรือบัตร Octopus สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วรถไฟจากภายในสนามบินได้เลย แต่ปัจจุบันนี้การเดินทางด้วยรถบัส และการซื้อของอื่นๆในฮ่องกงเราสามารถใช้บัตร Visa หรือ Master ได้แล้ว

แต่สำหรับใครที่จะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้บัตร Octopus อยู่นะคะ รวมถึงการซื้อของในร้านเล็กๆบางร้านจะไม่รับ Visa หรือ Master แต่จะรับ Octopus เท่านั้นค่ะ

ราคาบัตร 200 HKD (แต่จะเป็นค่ามัดจำบัตร 50 HKD เราสามารถใช้ได้แค่ 150 HKD)​

ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่เราจะเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองด้วยรถบัส เพราะว่าทริปนี้เราพักที่ Metropark Hotel Mongkok โรงแรมที่มีป้ายรถเมลล์อยู่ด้านหน้าพอดีเลย

เมื่อเราผ่าน ตม. พร้อมกับกระเป๋าเดินทางแล้ว ให้เรามองหาBus ที่บอกว่า To city ให้เราเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ เราจะเจอกับจุดขึ้นรถบัสค่ะ

รถบัสA21 สามารถเดินทางเข้าเมืองผ่านแหล่งที่พักที่นักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่พักกัน โดยรถบัสA21จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ ตี 5.30 – เที่ยงคืน แล้วหลังจากเที่ยงคืนรถบัสจะเปลี่ยนสายเป็น N21 ให้บริการตั้งแต่หลังเที่ยงคืน – ตี5 ของทุกวัน ระยะเวลาเดินทางประมาณ 35-45 นาที

ใครพักโรงแรม Metropark Hotel Mongkok สามารถลงรถที่ป้ายที่ 6 Metropark Hotel Mongkok, Lai Chi Kok Road ไม่ต้องกังวลว่าเราจะงง ลงรถผิดรึป่าว เพราะรถบัส หรือ รถเมล์ในฮ่องกงจะมีจอบอกป้ายที่จะถึงทุกคัน หายห่วงไม่หลงแน่นอนค่ะ

ค่าโดยสาร : 33 HKD (ราคาผู้ใหญ่) เราสามารถใช้บัตรปลาหมึก หรือ บัตร Visa / Master ได้เลยค่ะ

การเดินทางในฮ่องกง

ทริปนี้เราเราเดินทางด้วยรถเมล์เป็นหลัก เพราะด้วยที่พักเราอยู่ในทำเลที่เดินทางด้วยรถเมล์สะดวกมาก แต่ก็มีสถานที่ที่เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอยู่บ้างเหมือนกัน

วิธีที่เช็คการเดินทางได้สะดวกที่สุดเราใช้ google map เพื่อดูสายรถเมล์ ป้ายรถเมล์​ต่างๆ

Day1

  • Good Hope Noodle
  • % Arabica Victoria Dockside
  • Avenue of Stars

วันแรกกว่าเราจะไปถึง กว่าจะเช็คอินโรงแรม เข้าห้อง ล้างหน้าแปรงฟังอะไรเรียบร้อย ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งวันแล้ว วันนี้เราเลยมีแพลนเที่ยวแบบไม่เร่งไม่รีบ

Good Hope Noodle

เมนูที่เราชอบมากเมื่อมาฮ่องกงคือ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ทริปนี้เราเลยตั้งใจหา บะหมี่เกี๊ยวร้านโปรดร้านใหม่ทดแทนร้านเดิมที่ปิดสังเวยให้กับพิษโควิดในฮ่องกง

Good Hope Noodle บะหมี่เกี๊ยว มิชลิน 2019 ร้านนี้มีอยู่ทั้งหมด 3 สาขา แต่วันนี้เราไปสาขา Sai Yee St ใกล้ที่พักเดินประมาณ 10 นาทีก็มาถึงร้านแล้ว ร้านนี้เป็นที่นิยมของคนฮ่องกงเอง มีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร โซนที่นั่งในร้านก็มีเยอะ แต่เกือบจะเต็มตลอดเวลา และร้านนี้รับแค่เงินสดเท่านั้น

เรากับเพื่อนสั่งเมนูแนะนำของร้านนี้มาคนละชาม

– บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง (Noodle with Cantonese Wanton in Soup)
– บะหมี่หมูซอสพริก (Braised Noodle with Shredded Pork & Special Sauce) 

สำหรับเราร้านนี้ยังไม่อร่อยขนาดนั้น และติดเค็มมากไปหน่อย และเกี๊ยวกุ้งลูกไม่ใหญ่มากนัก แต่หากใครมาแถวนี้มาลองทานได้นะ อาจจะรู้สึกแตกต่างกับเราก็ได้

เปิด : 11.00 -22.00 น.

ราคาเริ่มต้นที่ : 37 HKD (รับเงินสดเท่านั้น)

% Arabica Victoria Dockside

สาขานี้อยู่ริมอ่าววิกตอเรีย โดยความพิเศษที่นี่ได้ Rem Koolhaas สถาปนิกนักคิดและนักปฏิบัติ ผู้คร่ำหวอดในวงการออกแบบมามากกว่า 40 ปี เป็นคนออกแบบ

สาขานี้เป็นสาขาที่เราสามารถสั่งเครื่องดื่ม แล้วไปหามุมเหมาะๆริมอ่าว ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและบรรยากาศของฮ่องกง ใครมาเที่ยวฮ่องกง และมาเช็คอินที่ Avenue of Stars อย่าลืมแวะมา % Arabica นะคะ

เปิด : 10.00 -19.00 น.

วิธีเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Tsim Sha Tsui ทางออก E หรือ สถานี East Tsim Sha Tsui ทางออก J1 หรือ J2

Avenue of Stars

ใครมาเช็คอินกาแฟ % สาขา Victoria Dockside อยากจะชวนมาเดินเล่นที่ถนนสายซุปเปอร์สตาร์ที่อยู่ใกล้กัน หรือที่รู้จักในชื่อ Avenue of Stars ถนนที่รวมรวบเอารอยฝามือของดาราที่มีชื่อเสียงมาประทับเอาไว้ให้เราได้ชมกัน ช่วงเวลาเย็นๆ โซนนี้เหมาะกับการนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจมากทีเดียวนะคะ

เปิด : ตลอดเวลา

วิธีเดินทาง : MTR สถานี East Tsim Sha Tsui Station ทางออก P1 

Day2

  • นั่งรถรางฮ่องกง
  • Cupping Room
  • Miam Bakery
  • Monster Mansion
  • Hong Kong Museum of Art
  •  % Arabica Hong Kong Star Ferry
  • Victoria Harbour

วันที่สองของทริป เราตั้งใจเก็บที่เที่ยวที่ลิสท์ไว้ในใจทั้งหมด อาจจะเป็นที่เที่ยวที่ไม่ใช่ที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมไปกันมากนัก แต่เป็นที่ที่เราอยากไปมาก ฮ่าาาา

นั่งรถรางฮ่องกง

ใครมาฮ่องกงจะต้องมาถ่ายรูปกับรถราง แต่ทริปนี้เราจะชวนทุกคนไปนั่งรถรางกันค่ะ เรามาฮ่องกงหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เราจะไปลองนั่งรถราง

จริงๆการเดินทางในฮ่องกงมีหลายวิธีมากๆ แต่อีกหนึ่งวิธีที่เราอยากชวนมาลองกันเมื่อได้มาฮ่องกง นั่นก็คือ การนั่งรถราง หรือ Tram รถรางของฮ่องกงให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 และยังให้บริการจนถึงทุกวันนี้ สำหรับฮ่องกงเราว่า รถรางอาจจะไม่ใช่แค่ยานพาหนะที่จะพาเราไปสู่จุดหมาย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของเกาะฮ่องกงอีกด้วย

รถรางของฮ่องกงจะให้บริการอยู่เฉพาะบนเกาะฮ่องกงเท่านั้น อธิบายง่ายๆว่า นักท่องเที่ยวแบบเราถ้าไปย่าน Sheung Wan, Admiralty, Central, Wanchai, Causeway Bay ก็สามารถจะลองนั่งรถรางดูสักครั้งได้ค่ะ

📍วิธีการเดินทางด้วยรถรางฮ่องกง
01 ขึ้นประตูหลัง ลงประตูหน้า
02 จ่ายเงินด้วยเงินสด (แบบพอดี) และบัตร octopus ด้านหน้าตอนจะลง
03 ราคา (ประมาณ) 2-3 HKD
05 รถรางมี 2 ชั้นเลือกนั่งได้ตามสบาย

Cupping Room

กาแฟแก้วแรกของวันนี้เรายกให้ที่นี่เลยค่ะ Cupping Room สาขา Central อยู่ในตึกทำเลหัวมุมของถนนในย่าน Central ทำให้บรรยากาศนอกร้านก็ดูเท่ๆสไตล์ฮ่องกง ภายในร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นโซนสั่งเครื่องดื่ม และมีมุมให้เรานั่งได้ไม่เยอะนัก ส่วนชั้นบนพื้นที่กว้างกว่า มีโต๊ะเก้าอี้ให้สำหรับคนที่นั่งดื่มกาแฟที่นานกว่า หรือจะนั่งทำงานก็เหมาะเลยนะ

กาแฟที่นี่สมคำล่ำลือ ใครเป็นสายกาแฟหนีเที่ยวฮ่องกงทริปหน้าอย่าลืมแวะไปเช็คอินกันนะคะ

เปิด : จันทร์ – ศุกร์ 8.00 -17.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 9.00-18.00 น.

วิธีเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Central ทางออก D1 หรือ D2

Miam Bakery

ไหนๆก็มาโซน Central Hongkong แล้ว เราเลยถือโอกาสนี้มาตามหาร้านขนมปังที่โด่งดังในไอจีของฮ่องกงซะหน่อย ร้านนี้มีชื่อว่า Miam Baker ร้านนี้ดังมากเรื่องขนมปังและเบเกอรี่ โดยแต่ละวันจะมีเมนูไม่ซ้ำกัน ความพิเศษของร้านคือเราสามารถมองเห็นครัวที่อบขนมอีกด้วย ร้านนี้ไม่มีที่นั่งนะคะ เป็น take away เท่านั้น

ใครไปย่าน Central แล้วอยากไปลองกินขนมปังของร้านนี้สักหน่อยเราก็แนะนำมากเลยค่ะ และอีกอย่างที่ถูกใจคนชอบถ่ายรูป คือมุมหน้าร้านนี้น่ารักมากเลยค่ะ

เปิด : 8.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์และอังคาร

วิธีเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Sai Ying Pun

(ให้เดินทางด้วยรถเมล์ หรือ รถรางจะสะดวกสุด แต่เดินไกลหน่อยนะ)

Monster Mansion

Monster Mansion ตึกที่ปรากฏในภาพยนต์เรื่อง Transformer จริงๆตึกนี้ชื่อว่า Yick Fat Building (เลขที่ 1048 King road) เป็นตึกที่คนฮ่องกงอาศัยอยู่จริงๆ และเป็นจุดเช็คอินที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลกันมาเช็คอินตลอด

ข้อควรระวัง : ด้วยตึกนี้เป็นตึกที่ประชาชนชาวฮ่องกง อาศัยอยู่จริง หากเราจะมาถ่ายรูป หรืออยากมาเช็คอิน ก็ไม่ควรที่จะส่งเสียงหรือทำอะไรรบกวนผู้อยู่อาศัยนะคะ

ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับกาแฟ % มาถ่ายรูปที่นี่แล้วจะแวะกินกาแฟหน่อย ในบริเวณเดียวกันก็มี % Arabica Coffee สาขา Monster Mansion ให้เราได้กินกาแฟอร่อยๆด้วย

📍วิธีเดินทาง : MTR สถานี Tai Koo ทางออก B เดินต่ออีกนิดหาไม่ยากค่ะ

Hong Kong Museum of Art

ทริปนี้เราไม่ได้ไปช็อปปิ้งเลย เพราะมัวเอาเวลาไปเดินเล่น เช็คอินคาเฟ่ เข้ามิวเซียมแทน สงสัยจะเริ่มแก่แล้วล่ะมั้ง

หนึ่งในมิวเซียมที่เราอยากมามากในทริปนี้ก็คือ Hong Kong Museum of Art ความดีงามของที่นี่คือ เดินเพลิน มุมถ่ายรูปสวย มีจุดให้นั่งมองวิวอ่าววิกตอเรีย และที่สำคัญเข้าฟรี

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮ่องกง หรือ HKMoA ภายในเป็นมิวเซียมที่มีคอลเลคชั่นงานศิลปะมากกว่า 17,000 รายการ โดยศิลปะต่างๆนั้นมีความหลากหลายมากกก มีตั้งแต่ภาพวาด ข้าวของเครื่องใช้โบราณ ศิลปะงานร่วมสมัย และอีกเยอะเลย

ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในฮ่องกงที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปมากกก แนะนำว่าควรมีเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงเพราะเดินเพลินมากเวลาหมดไปแบบไม่รู้ตัว นอกจากศิลปะที่มีให้เราชมเยอะมากแล้ว มุมนั่งเล่นมองเห็นอ่าวที่นี่ก็ดีมาก ถ่ายรูปสวยด้วยนะ ใครหาที่นั่งเพลินๆปล่อยใจ หรือจะหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ ต้องห้ามพลาด

ค่าเข้า : ฟรี

เปิด : 10.00-18.00 น. วันเสาร์และอาทิตย์ 10.00-19.00 น. หยุดทุกวันพฤหัส

วิธีเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Tsim Sha Tsui ทางออก Exit L6

% Arabica Hong Kong Star Ferry

% Arabica Hong Kong Star Ferry ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ Star Ferry ย่าน จิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) อย่างที่เรารู้จักกันว่า % Arabica เป็นแบรนด์กาแฟที่รสชาติมาตรฐาน ทุกสาขาอร่อยเหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่ทำให้แฟนคลับแบบเราตามไปเช็คอินทุกสาขานั่นก็คือ ตัวร้านของแต่ละสาขาตกแต่งออกมาได้สวยมาก มีความน้อยแต่มากตามสไตล์ของแบรนด์

บรรยากาศของสาขานี้ให้ความรู้สึกสบายๆ มีมุมให้นั่งไม่มากนัก และมีโต๊ะอยู่หน้าร้านอยู่ 2-3 โต๊ะที่เป็นรูปแบบของ Coffee Stand แต่กลับกลายว่ามุมนี้เป็นเอกลักษณ์ของสาขานี้ที่ถ่ายรูปออกมาสวยมากค่ะ

เรามาสาขานี้ช่วงเย็นๆทำให้คนไม่เยอะ ถ่ายรูปสบายๆ

เปิด : 9.00 -19.00 น.

การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก L6 แล้วเดินไปที่ท่าเรือ Star Ferry ร้านอยู่ชั้น 2 (เดินตาม google mpas มาได้เลยค่ะ)

Victoria Harbour

อ่าววิคตอเรีย  จัดเป็นวิวอ่าวที่สวยติดอันดับโลก ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาฮ่องกง ต้องมา วันนี้ไหนๆเราก็มาโซนนี้แล้ว เลยเดินมาถ่ายรูปเล่นต่อ ช่วงเย็นมุมนี้สวยเลยนะคะ น่าแปลกเพราะว่าตรงนี้มีคนเยอะ แต่บรรยายกลับเหงาจับใจซะงั้น

ใครมาฮ่องกงต้องมาเช็คอินที่นี่เลยน้า สายถ่ายรูปสตรีทน่าจะชอบด้วยนะ

เปิด : ตลอดเวลา

การเดินทาง : สถานี East Tsim Sha Tsui ทางออก L6 หรือ สถานี Tsim Sha Tsui ทางออก E

Day3

  • GOODIN’ OUT Coffee
  • Hong Kong Disneyland
  • Hung Hom Kwun Yum Temple
  • Mak’s Noodle

วันที่สามของทริปเราจะไปดิสนีย์แลนด์กันค่ะ แต่วันนี้เราเริ่มวันเร็วหน่อย อยากจะไปหากาแฟอร่อยๆ ในคาเฟ่ที่อยากไป ก่อนจะไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์

GOODIN’ OUT Coffee

Goodin’ Out Coffee คาเฟ่ที่พึ่งเปิดใหม่ย่าน Tai Kok Tsui เรารู้จักร้านนี้ผ่านไอจีที่บล็อกเกอร์ชาวฮ่องกงเช็คอินเอาไว้

ตัวร้านเป็นสีขาวคลีนๆ อยู่ใกล้ย่านออฟฟิศของฮ่องกง ด้วยเรามาตอนเช้าตั้งแต่ร้านเปิด บรรยากาศของร้านเป็นแบบสบายๆ เราชอบมุมหน้าร้านริมถนนที่สามารถนั่งมองมนุษย์ออฟฟิศฮ่องกง เดินทางไปเข้างานกันไม่ขาดสาย

ร้านมีเมนูทั้งเครื่องดื่มและขนม เราสั่ง อเมริกาโน่ รสชาติดีมากทีเดียวค่ะ ใครอยู่ใกล้ย่านนี้แนะนำลองมาเช็คอินกันดูนะคะ

เปิด : จันทร์ – ศุกร์ 8.00 -19.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 9.00-19.00น.

Hong Kong Disneyland

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ถือว่าเป็นดิสนีย์แลนด์ที่ขนาดเล็กที่สุดในโลก เราสามารถเที่ยวได้ครบภายใน 1 วัน

ความน่ารักของดิสนีย์แลนด์เริ่มต้นตั้งแต่รถไฟที่เราจะเดินทางเข้าดิสนีย์ เราแนะนำว่าใครจะไปดิสนีย์แลนด์ให้เลือกไปวันธรรมดา และไปตั้งแต่ช่วงที่เริ่มเปิดเลย เพราะว่าคิวเครื่องเล่นแต่ละอย่างจะไม่เยอะ ไม่ต้องรอนาน เราสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าไปเลย เมื่อไปถึงก็แค่สแกนคิวอาร์โค้ดแล้วเข้าในสวนสนุกได้เลย

เรากับเพื่อน คือ เด็กน้อยในร่างคนวัย 30 ที่สนุกกับวิ่งไปต่อแถวเครื่องเล่น เน้นสนุก ไม่เน้นเหมาะสม 5555 ใครหนีเที่ยวฮ่องกง เราแนะนำเลยค่ะ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ สนุกมากก ถ่ายรูปสวย เป็นหนึ่งวันที่คุ้มมากสำหรับทริปหนีเที่ยวฮ่องกง

สรุปข้อแนะนำ

  • แนะนำเลือกไปวันธรรมดาเพราะคนจะน้อยกว่าวันหยุดเยอะเลย
  • ซื้อตั๋วเข้าพาร์คไปล่วงหน้าเลย ไปถึงก็แค่สแกน ถ้าเข้าวันธรรมดา ตั๋วจะถูกกว่าวันหยุดประมาณ 300 บาท
  • พาร์คเปิด 10.30 น. แนะนำให้มาถึงดิสนีย์ประมาณ 10 โมง เราจะเป็นกลุ่มแรกๆที่เข้าพาร์ค คิวเครื่องเล่นคนจะน้อย

เปิด : 10.30 – 20.45 น.

การเดินทาง :  MTR มาลงที่สถานี Hong Kong Disneyland Resort

Hung Hom Kwun Yum Temple

ไปฮ่องกง ไม่ไปมูก็เหมือนไปไม่ถึง ทริปนี้เราไปมูมาแค่ 2 ที่เท่านั้น เลือกเน้นๆ (เน้นเงิน 55555)

Hung Hom Kwun Yum Temple (วัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ) ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ที่ตั้งอยู่ในย่านฮ่องฮำ (Hung Hom) ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1873

วัดที่เราจะสามารถยืมเงินเจ้าแม่กวนอิมได้ วัดนี้เน้นๆเรื่องเงินเท่านั้นในการขอ หากเราได้ตามคำขอแล้วก็ขอแค่กลับมาขอบคุณเจ้าแม่กวนอิมอีกครั้งเท่านั้นเอง สำหรับใครที่กลัวว่าเราจะไหว้ถูกมั้ย หายห่วงได้เลยค่ะ ที่วัดมีเจ้าหน้าที่พูดภาษาไทยได้ และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดีมากค่ะ

เปิด : 8.00 – 17.45 น.

การเดินทาง : MTR สถานี Hung Hom ทางออก B1

Mak’s Noodle

เราขอปิดทริปวันนี้ด้วยการไปตามหาบะหมี่เกี๊ยวกุ้งของโปรด

Mak’s Noodle หนึ่งในร้านบะหมี่ระดับตำนานที่ดีที่สุดในฮ่องกง เปิดครั้งแรกเมื่อปี 1920 บนจีนแผ่นดินใหญ่ โดย Mak Woon Chi ซึ่ง Mak’s Noodle มีหลายสาขา วันนี้เรามาที่สาขา Central (เพราะเพื่อนเราอยากมาสาขานี้เท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าศิลปินที่นางเป็นติ่งนั้นมาสาขานี้)

 เราสั่งบะหมี่เกี๊ยว ( Signature Wonton Noodles ) โดยเมนูนี้จะเสิร์ฟมาในชามขนาดไม่ใหญ่นัก อัดแน่นมาด้วยบะหมี่ที่กินยังไงก็อิ่มมมมมม พร้อมกับเกี๊ยวกุ้งลูกไม่ใหญ่นัก สำหรับเรารสชาติของบะหมี่เกี๊ยวกุ้งที่นี่อร่อยเลยค่ะ ทุกอย่างลงตัวกำลังดี

ใครจะมาสาขา Central อยากจะบอกว่า ร้านอยู่ติดกับคาเฟ่ Cupping Room มาทีเดียวเก็บได้ 2 ร้านเลยนะ

เปิด : 10.30 -20.00 น.

การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Central ทางออก D1 หรือ D2

Day 4

  • Halfway Coffee
  • M+
  • Che Kung temple

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริป เราจะกลับไทยเที่ยวบินช่วงเย็นๆ ทำให้เรายังพอมีเวลาให้ตะลอนเก็บที่เที่ยวอยู่

Halfway Coffee

ตัวร้านอยู่ในย่านอุปกรณ์ช่าง เดินเข้าซอยมาเรื่อยๆก็จะเจอ ตัวร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายมีความเป็นจีนแบบเดิมๆมาผสมกับความเข้มขรึมของร้านอย่างลงตัว

เราไปช่วงเช้าทำให้ในร้านยังไม่มีลูกค้าคนอื่น ทำให้เราสามารถเดินสำรวจร้านได้จนทั่ว ตัวร้านมองจากภายนอกเหมือนจะมีขนาดแค่คูหาเดียว แต่เมื่อลองเดินไปทั่วๆ ถึงได้รู้ว่าางร้านจัดมุมเพื่อให้มีสเปซที่เยอะมาก

เราสั่งกาแฟ และ ชาเขียวใส่แก้วทานที่ร้าน เครื่องดื่มของเราก็จะเสิร์ฟมาในแก้วที่มองไกลๆก็ยังรู้ว่ามีความจีนผสมอยู่ในนั้น รสชาติเครื่องดื่มอร่อยมากทีเดียวค่ะ

เปิด : 8.00 -18.00 น.

วิธีเดินทาง : เราแนะนำให้นั่งรถเมล์จะเดินไม่ไกล

M+

M+ (เอ็มพลัส) ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ของฮ่องกงที่พึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2021 โดยที่นี่คือหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยด้านศิลปวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดย M+ เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่สำคัญของ The West Kowloon Cultural District Authority (WKCDA) ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลเพื่อสร้าง “เขตวัฒนธรรมฮ่องกง” (Cultural District)

ที่นี่เหมาะสำหรับคนชอบศิลปะ ชอบการเดินเล่นมิวเซียม หากมีทริปหนีเที่ยวไปฮ่องกง เราอยากแนะนำให้ไปที่นี่มากกก เพราะภายในมีงานจัดแสดงเยอะมาก พื้นที่อาคารภายในสวยงาม มีความมินิมอล มุมถ่ายรูปก็ดีมาก และแอบกระซิบว่าใครจะไปเดินเล่นที่นี่ควรมีเวลาอย่างน้อยครึ่งวันถึงจะคุ้มค่า แนะนำว่าให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปก่อนนะคะ เราจองผ่าน KKday


เปิด : อังคาร – พฤหัส 10.00-18.00 น. // วันเสาร์และอาทิตย์ 10.00-18.00 น. // วันศุกร์ 10.00-22.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ค่าเข้า : 120 HKD
วิธีเดินทาง : MTR สถานี Kowloon ทางออก E4 หรือ E5 จากนั้นเดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ

Che Kung temple

วัดแชกงหมิวหรือวัดกังหันที่คนไทยรู้จักกันดี วัดนี้ถือว่าดังมากในหมู่นักท่องเที่ยวไทย และแน่นอนค่ะ ทริปนี้เราบอกแล้วว่าเราไปแค่ 2 วัดแบบเน้นๆ (เน้นเงิน)

Che Kung temple หรือ วัดกังหันลม เป็นวัดที่ประชาชนคนจีนให้ความศรัทธาเลื่อมใสมาอย่างยาวนาน ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ 300 ปีที่แล้ว เพื่อระลึกถึง นักรบเอก “แช กง” ซึ่งเป็นนักรบในราชวงศ์ซ่งผู้มีฝีมือเก่งกาจในการต่อสู้และออกรบ

สำหรับใครที่จะมามูที่วัดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไหว้ไม่ถูก เพราะว่าเจ้าหน้าที่วัดพูดไทยได้ มีวิธีการไหว้เป็นภาษาไทยอธิบายอย่างชัดเจน และวัดนี้เราไปมาหลายครั้งแล้ว ขออะไรก็ได้เกือบทุกครั้งโดยเฉพาะเรื่องเงิน

เปิด : 07.00 – 18.00 น.

วิธีการเดินทาง : MTR สถานี Che Kung Temple (สายสีน้ำตาล) ทางออก B เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ

Bye Bye Hong Kong

ทริปนี้ได้กลับมาเที่ยวฮ่องกงในรอบ 5 ปี เป็นทริปที่สนุกมากกก ตอนแรกเราตั้งใจว่าเป็นทริปเที่ยวชิลๆ สบายๆ แต่ไปๆมาๆ เรากลับตามล่าที่เช็คอินมาทั้ง 17 จุดเช็คอินในเวลา 4 วัน 3 คืน สำหรับเราฮ่องกงเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้ หากช่วงไหนมีโปรตั๋วเครื่องบินราคาดีๆ ที่พักราคาน่ารัก ฮ่องกงก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่แนะนำนะคะ

ใส่ความเห็น

Please log in using one of these methods to post your comment:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

%d bloggers like this: