ทริปสุดท้ายก่อนเราจะได้รู้จักโควิด เราไปสิงคโปร์มาค่ะ
ทริปแรกของปี 2023 ครั้งที่เราเริ่มอยู่กับโควิดเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว ประเทศที่เราเลือกหนีเที่ยวประเทศแรกก็คือ “สิงคโปร์”



ทริปนี้เป็นทริปที่เราไปสิงคโปร์ครั้งที่ 5 หรือ 6 แล้วไม่แน่ใจ แต่รีวิวนี้จะเป็นรีวิวแรกที่เราจะเล่าการเดินทางในประเทศสิงคโปร์ของเราแบบละเอียด เผื่อว่ารีวิวนี้จะไปกระตุ้นต่อมเที่ยวของใครสักคนให้ออกเดินทาง

ทริปนี้เราหนีเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน เป็นทริปหนีเที่ยวที่ไม่ได้แพลนอะไรมากมาย เที่ยวแบบสบายๆ อาจจะไม่ได้ไปตามแหล่งเช็คอินดังๆ (เพราะหลายๆที่เราเคยไปมาแล้ว)
สิงคโปร์เป็นประเทศที่คนไทยไม่ต้องขอ Visa เราสามารถเที่ยวสิงคโปร์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน



ทริปนี้เราเดินทางจากหาดใหญ่ด้วยสายการบิน Scoot นะคะ ใครอยู่หาดใหญ่อยากจะหนีเที่ยวไปสิงคโปร์ แอบกระซิบว่า ถึงแม้จะมีสายการบินเดียวที่ให้บริการแบบบินตรง แต่ราคาน่ารักกว่าเริ่มต้นจากกรุงเทพมากเลยค่ะ อาจจะเพราะจากหาดใหญ่ไปสิงคโปร์ใช้เวลาประมาณ 90-100 นาที
ลืมบอกว่าจากหาดใหญ่เราเดินทางคนเดียวนะคะ และวันแรกที่จะเที่ยวสิงคโปร์ก็เที่ยวคนเดียวด้วยค่ะ แต่ทริปนี้มีเพื่อนหนีตามมาด้วยจากกรุงเทพในช่วงค่ำวันที่สองของทริปนะคะ (งงมั้ย)



เข้าสิงคโปร์ 2023 ต้องทำอะไร
- กรอก SG Arrival Card ในเว็บหรือแอปพลิเคชั่น MyICA Mobile
วิธีกรอกไม่ยากค่ะ เราสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ เราสามารถกรอกได้ล่วงหน้า 3 วัน เราแนะนำว่าให้อัพโหลดใบรับรองการฉีดวัคซีนของเราด้วยนะคะ และหากใครที่ลืมกรอกสุดท้ายก่อนเราจะไปเข้าคิวผ่าน ตม. เราก็จะต้องกรอกแบบออนไลน์อยู่ดี ดังนั้นกรอกไปเลยง่ายสุดค่ะ
ใครจะกรอกในเว็บ สามารถเข้าไปกรอกได้ที่ >> https://eservices.ica.gov.sg/sgarrivalcard/
- ใบรับรองการฉีดวัคซีน
เราแนะนำให้แคปหน้าจอเอาไว้ เผื่อว่า ตม. จะเรียกตรวจ แต่ทางที่ดี ให้อัพโหลดไปตั้งแต่กรอกใบ arrival card
ตม.ถามอะไรบ้าง
เรื่องคำถามอาจจะช่วยอะไรทุกคนไม่ได้ เพราะของเรา ตม. ไม่ถามอะไรเลย อาจจะเพราะเราเคยมาเที่ยวสิงคโปร์ประมาณ 5-6 ครั้งแล้ว และแต่ละครั้งเราอยู่ไม่เคยเกิน 5 วันเลย
สำหรับใครที่เป็นนักท่องเที่ยว เป็นผู้หญิงมาคนเดียวแบบเรา มั่นใจ สบตา ตม. เอาไว้ ผ่านได้สบายๆแน่นอนค่ะ


วิธีเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง
วิธีเดินทางจากสนามบินสิงคโปร์เข้าเมืองที่ง่ายที่สุดสำหรับเราคือ การใช้ MRT วิธีการใช้รถไฟฟ้าสิงคโปร์ก็ง่ายมากค่ะ เราแนะนำให้ทุกคนโหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า SG MRT เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับใช้ในการเช็คสายรถไฟฟ้า ใช้งานง่ายมากค่ะ และค่าเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองสิงคโปร์จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 $
อัตราแลกเปลี่ยนเงินสิงคโปร์อยู่ที่ประมาณ 25-26 บาท ต่อ 1 ดอลล่าสิงคโปร์
หลังผ่าน ตม. มาแล้ว รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ให้เรามองหาป้ายที่เขียนว่า Train to City แล้วเดินตามมาเรื่อยๆเลยค่ะ เพราะป้ายจะพาเราไปที่สถานีรถไฟฟ้า



สำหรับใครที่หนีเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก เราขอแนะนำวิธีการใช้แอปพลิเคชั่นแบบเข้าใจง่ายๆดังนี้ค่ะ
- กรอกสถานีต้นทางที่เราอยู่ และ กรอกสถานีปลายทางที่เราจะไป
สำหรับทริปนี้เราพักย่านเกลัง ซึ่งจะต้องเดินทางมาถึงที่สถานีที่ชื่อว่า Ajiunied และสถานีต้นทางของเราคือ Changi Airport
2. สำหรับรถไฟฟ้าที่ออกจากสนามบินสิงคโปร์ เราจะต้องไปเปลี่ยนสายที่ Tanah Merah วิธีการเปลี่ยนสายก็ไม่ยากค่ะ แค่เดินไปรางตรงข้ามกับที่เราลงมาแค่นั้น (ใครมาครั้งแรกไม่ต้องกลัวว่าจะหลงนะคะ เพราะ 95% บนรถไฟที่มาจากสนามบิน ทุกคนจะลงเปลี่ยนสายทั้งหมดค่ะ )



นั่งรถเมล์ในสิงคโปร์
อย่างที่เราได้เล่าไปมาเราเคยมาสิงคโปร์หลายครั้งแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ก็จะเดินทางด้วย mrt เป็นหลัก แต่ทริปนี้โรงแรมที่เราพักเดินทางด้วยรถเมล์สะดวกกว่า ทำให้ทริปนี้เราเลยได้นั่งรถเมล์ในสิงคโปร์เป็นครั้งแรก แล้วค้นพบว่าจริงๆการเดินทางด้วยรถเมล์ทำให้เราเที่ยวสิงคโปร์ได้ง่ายขึ้นมากเลยค่ะ
วิธีการเช็คป้าย และสายรถเมล์ที่เราจะเดินทางในสิงคโปร์ก็ไม่ยากค่ะ เราแค่ต้องใช้แอพพลิเคชั่น Google maps เข้ามาช่วยในการเช็ครถเมล์ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นจุดที่ป้ายไหน รถป้ายไหน รถสายอะไร จะมาถึงตอนไหน เราสามารถใช้ google maps เช็คทุกอย่างได้เลยค่ะ





Hotel
ทริปหนีเที่ยวสิงคโปร์ในครั้งนี้เราเลือกมาพักโรงแรมที่ไม่เคยพักมาก่อนค่ะ เพราะด้วยเหตุผลคือห้องกว้างและราคาไม่แรง ที่นี่ชื่อว่า Hotel 81 Premier Star สาขานี้อยู่ในย่าน Gaylang ซึ่งบางคนบอกว่าย่านนี้น่ากลัว เพราะมีธุรกิจกลางคืนเยอะ แต่สำหรับเรามองว่าปกติค่ะ หน้าโรงแรมไม่เปลี่ยวนะถึงแม้จะมีธุรกิจกลางคืนเต็มไปหมดก็ตาม ออกแนวคึกครื้นด้วยซ้ำ
วิธีเดินทางมายังโรงแรม : สาขานี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า Aljunied (สายสีเขียว)
- ให้เรานั่ง mrt มาลงที่สถานี Aljunied ทางออก A หรือ B ก็ได้
- ต่อรถเมล์ที่มีป้ายอยู่ตรงหน้าสถานี mrt ได้เลย โดยสามารถเช็ครถได้จาก Google maps แล้วนั่งมาลงที่ป้ายถัดไปเลย (1ป้าย) ปากซอย Geylang 18 จากนั้นก็เดินเข้าซอยประมาณ 200 เมตรก็จะถึงโรงแรม





เหตุผลที่เราเลือกพักที่นี่เพราะว่า ห้องกว้างสำหรับห้องที่มี 2 เตียง ในสิงคโปร์ถ้ามีพื้นที่ในห้องไม่แคบเกินไป ราคาก็จะค่อนข้างแรงค่ะ แต่ที่นี่ภายในห้องมีพื้นที่ เป็นห้อง2เตียงที่ไม่แคบ และที่สำคัญราคาน่ารัก ประมาณ 2500 บาท/คืน เราหารกับเพื่อน ราคาพอๆกับพักโฮสเทลเลยค่ะ
ภายในห้องจะมีขนาดกำลังดี สะอาด ห้องน้ำไม่แขบจนหมุนตัวไม่ได้ แต่ตัวอ่างล้างหน้าจะออกมาอยู่นอกห้องน้ำนะคะ มีน้ำดื่มให้วันละ 2 ขวด มีกาต้มน้ำ ตู้เซฟ ทีวี เตียงนุ่มสบาย รวมๆเราถือว่าดีเลยค่ะ












Day 1 : ผู้หญิงเดินทางคนเดียว นั่งรถเมล์ ทักทายพี่สิงโต
วันแรกของทริปเราเดินทางจากหาดใหญ่ บินตรงมาลงที่สิงคโปร์เลย ทำให้กว่าจะเข้าที่พัก ก็ค่ำแล้ว วันนี้เราไม่มีแพลนจะไปเที่ยวไหน สุดท้ายเก็บของแล้วเลยนั่งรถเมล์ไปเดินเล่นที่ Merlion Park
Merlion park
Merlion สิงโตครึ่งปลาที่กำลังพ่นน้ำ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ใครมาสิงคโปร์แล้ว ไม่มาทักทาย Merlion ก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์
วันนี้เราเลยมาเดินเล่นกันที่ Merlion park สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวแบบเรา และยังเป็นสถานที่พักผ่อน ออกกำลังกายของคนสิงคโปร์ ใครจะมาสิงคโปร์ เราแนะนำว่าช่วงเย็นๆมาเดินเล่นแถวนี้กันค่ะ บรรยากาศดี แม้บางวันนักท่องเที่ยวจะเยอะหน่อย แต่ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่อยากให้ปักหมุดมากันนะ
วิธีการเดินทาง : mrt สถานี Raffles Places ทางออก G (และให้เดินตาม google maps ต่อนะคะ ไปครั้งแรกอาจจะงงๆหน่อย)







Day 2 : เที่ยวคนเดียว สวนลอยฟ้า และ เพื่อนหนีตามมาเที่ยวด้วย
วันที่สองของทริปนี้เรายังคงเที่ยวคนเดียวอยู่ แต่คืนนี้เพื่อนเราจะหนีเที่ยวตามมาจากกรุงเทพ วันนี้เราไม่ได้มีแพลนอะไรมากมาย มีสิ่งที่อยากไป อยู่แค่ 3 ที่ (ขนาดไม่มากมาย 5555) วันนี้เราเดินทางด้วยรถเมล์เป็นหลักเหมือนเดิม
รถเมล์สิงคโปร์บางสายบางคัน จะเป็นรถเมลล์แบบสองชั้น เราโชคดีวันนี้ชั้นบนเก้าอี้หน้าสุดว่าง เลยได้ทัวร์ชมเมืองแบบราคาถูกมากๆ


% Arabica Singapore CapitaSpring
เราเป็นหนึ่งในแฟนคลับของกาแฟ %Arabica และตอนนี้ในสิงคโปร์ก็มีอยู่หลายสาขา วันนี้เราเลยไปสาขาที่ใต้ตึก Capita Spring สาขานี้ลูกค้าส่วนใหญ่คือพนักงานออฟฟิศในย่านนี้ เป็นสาขาที่ไม่มีคิวเลย เพราะว่าไม่มีที่นั่งของร้าน
วิธีเดินทาง : เราแค่นั่งรถเมล์มาลงป้ายใกล้สุดแล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ







National Gallery Singapore
หลังจากได้กาแฟแก้วโปรดแล้ว จุดหมายที่สองของเราในวันนี้คือ National Gallery Singapore แนะนำใครที่มาสิงคโปร์ตรงกับวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ อยากเดินเล่นมิวเซียม เราแนะนำเลยค่ะ เพราะสามวันที่เราบอกไป เป็นวันที่เราสามารถเข้าได้ฟรี ไม่ต้องซื้อตั๋วใดๆ ถือว่าดีมากๆๆเลยค่ะ
ใครมาเดินเล่นที่นี่แนะนำว่าควรมีเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะว่าที่นี่กว้าง มีผลงานต่างๆให้เราเดินชมเยอะมาก ใครมีเวลาเยอะเดินที่นี่สนุกเลยค่ะ
การเดินทาง :
- Mrt สถานี City Hall ทางออก B
- Mrt สถานี Clarke Quay ทางออก E
ปล. ทริปนี้เราไปที่นี่สองวันเลยมีรูปที่มีเพื่อนไปด้วยนะคะ




















ArtScience Museum
วันนี้เป็นวันที่เราเที่ยวคนเดียว เลยเที่ยวแบบสบายเลยค่ะ อยากไปไหนก็ไปได้ วันนี้เลยขอพาตัวเองไปอีกหนึ่งมิวเซียม ที่นี่คือ ArtScience Museum
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ถ้าอ่านจากชื่อที่แปลเป็นไทย อาจจะไม่ค่อยน่าไปเดินเล่นสักเท่าไหร่ แต่เรารู้จักที่นี่จากไอจีที่มีคนอัพรูปมิวเซียมแห่งหนึ่งที่มีภาพเคลื่อนไหวสีสวยๆ เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในดาวไหนสักแห่ง ที่นี่เป็นมิวเซียมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน (ยิ่งอธิบายยิ่งงง เอาเป็นว่าไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะ)
สำหรับคนที่จะมาเที่ยวที่นี่คนเดียว (แบบเรา) ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าถ่ายรูปยากมากกก
ค่าเข้า : (ประมาณ) 400 บาท แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปเลยนะคะ
วิธีเดินทาง : mrt สถานี Bayfront ทางออก D








Marina Barrage
ออกจากมิวเซียม เราเปิดกูเกิ้ลแมปส์แล้วเดินไปยังจุดหมายปลายทางที่เราอยากไปที่สุดในทริปนี้ ที่นี่คือ Marina Barrage หรือ เขื่อนมารีน่า ถ้าบอกชื่อทุกคนอาจจะงงๆว่ามันคือที่ไหน เราขออธิบายง่ายๆก็คือ ภาพสนามหญ้าที่มีฉากหลังเป็นตึกสำคัญๆของสิงคโปร์ เป็นภาพที่ดูแค่ผ่านตาก็รู้เลยว่าที่นั่นคือประเทศไหน
วิธีเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างจะต้องเดินไกลหน่อยนะคะ เราแนะนำให้มาตอนเย็นๆ บรรยากาศดีมากกก เอาเสื่อหรือแผ่นรองนั่งมาด้วย แล้วใครจะซื้อขนม ของกินเล่นก็แนะนำเลย เพราะว่าคนสิงคโปร์เองจะนิยมมาปิคนิคกันที่นี่ค่ะ สวนแห่งนี้อยู่บนชั้น 3 ของตึกนะคะ เราสามารถเดินขึ้นบันได หรือ ขึ้นลิฟต์มาก็ได้ค่ะ
วิธีการเดินทาง : mrt สถานี Gardens by the bay (ไม่มีรถไฟจอดสถานีนี้นะคะ) แต่ให้เดินมาออกทางออก 1 ของสถานีนี้ แล้วสวนจะอยู่ทางขวามือ เดินอีก 500 เมตรก็ถึงแล้ว





















Day 3 : เพื่อนหนีตามมาเที่ยวด้วย ข้าวมันไก่ และ มุมถ่ายรูปสุดฮิต
วันนี้เป็นวันที่สามของทริปสิงคโปร์ วันนี้เราไม่ได้เที่ยวคนเดียวแล้วค่ะ เพราะมีเพื่อนตามมาเมื่อคืนตอนดึกจากกรุงเทพ เช้าวันนี้มีเพื่อนแล้วเตรียมไปตะลุยกันค่ะ
% Arabica Singapore Arab Street
สาขานี้ถือเป็นสาขาแรกของ % Arabica coffee ในสิงคโปร์เลยค่ะ เราเคยมาสาขานี้แล้วเมื่อตอนที่เปิดสาขาใหม่ๆ ตอนนั้นคนเยอะมากกก ผ่านมาหลายปี (และช่วงโควิดด้วย) กลับมาอีกครั้งวันนี้คนยังเยอะเหมือนเดิม
ใครมาเที่ยวถ่ายรูปเล่นที่ arab street หรือ Haji land มีเวลาว่างแวะมาเช็คอินที่สาขานี้กันค่ะ






ร้านข้าวมันไก่เจ้าดัง
เที่ยงวันนี้เราตั้งใจจะไปชิมข้าวมันไก่สิงคโร์เจ้าดัง โดยร้านนี้อยู่ที่ศูนย์อาหาร Maxwell Food Centre ในย่านไชน่าทาวน์ ร้านนี้ชื่อว่า Tian Tian Hainanese Chicken Rice เอาจริงๆไปถึงแล้วหาไม่อยากเลยค่ะ เพราะเป็นร้านข้าวไก่ที่แถวยาวที่สุดเลยค่ะ
รสชาติอร่อยดีนะคะ ไก่ไม่ตบแบบบ้านเรา แต่ก็จะแบบเลี่ยนๆไปหน่อย เอาเป็นว่าใครอยากลองข้าวมันไก่สิงคโปร์สักครั้ง เราแนะนำว่าให้มาเลยค่ะ





มุมฮิต มุมปัง
จริงๆแล้วสิงคโปร์มีมุมถ่ายรูปฮิตๆเยอะมากกก วันนี้เราถือว่าไหนๆก็มาไชน่าทาวน์แล้ว เลยถือโอกาสมาถ่ายรูปมุมที่เก็บลิสต์มานาน ที่นี่ก็คือตึก potato head


S.E.A Aquarium
ตลอดบ่ายวันนี้เรายกเวลาให้กับ S.E.A. Aquarium ที่นี่เป็นอควาเรียมที่ใหญ่ระดับโลก ใครมาที่นี่แนะนำว่าควรมีเวลาอย่างน้อย 3 ชม. เพราะนอกจากที่นี่จะกว้าง มีสัตว์น้ำจัดแสดงเยอะ หากหลายโซน มุมถ่ายรูปก็เพียบ
เรากับเพื่อนชอบการเที่ยวอควาเรียมมากกกกก ทริปนี้เลยใช้เวลาอยู่ที่นี่เพลินเลยค่ะ การนั่งมองปลาว่ายน้ำไป ว่ายน้ำมานี่เพลินมากจนเราไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเลยค่ะ ใครที่จะมาเที่ยวที่นี่เลี่ยงช่วงเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดได้จะดีมากเลยค่ะ
ค่าเข้า : 1050 บาท (ประมาณ) แนะนำซื้อล่วงหน้าผ่านแอปเอเจนซี่ต่างๆไปเลยค่ะ
การเดินทาง : เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้านะคะ นั่ง mrt มาลงที่สถานี HarbourFront ทางออก C เดินต่อมาที่ห้าง VivoCity ชั้น 3 เพื่อต่อรถไฟสาย Sentosa Express แล้วมาลงที่สถานี Waterfront















Marina Bay Sand
วันนี้เที่ยวกับเพื่อนเราก็จะใช้เวลาคุ้มหน่อย ถ้ามาคนเดียวเราน่าจะเรื่อยๆเปื่อยๆ 555 คืนนี้เลยไปเดินเล่นกันที่ marina bay sand แต่เราไม่ได้เดินเล่นในห้าง หรือพาไปรีวิวโรงแรมนะคะ เราออกมาเดินเล่น ดูบรรยากาศริมอ่าวกันค่ะ เจอแอปเปิ้ลสาขาใหม่สวยมากกก
ใครจะมาดูโชว์แสงสีเสียงของสิงคโปร์ ก็มาที่นี่เลยนะคะ
อาทิตย์ – พฤหัส แสดง 2 รอบ : เวลา 20.00 น. และ 21.00 น.
ศุกร์ – เสาร์ แสดงวันละ 3 รอบ : เวลา 20.00 น. , 21.00 น. และ 22.00 น.
วิธีเดินทาง : mrt สถานี Bayfront ทางออก D









Mongkok Dimsum
คืนนี้เรายังไม่จบค่ะ เพราะว่าเราจะชวนทุกคนไปกินติ่มซำกันตอนดึก ร้านนี้ชื่อว่า Mongkok Dimsum เป็นร้านติ่มซำที่เปิด 24 ชม. ร้านกับโรงแรมเราอยู่ห่างกัน 1 ป้ายรถเมล์ โดยร้านจะอยู่ปากซอย Gaylang 8


คืนนี้จบโปรแกรมเที่ยวของเราแล้วค่ะ เป็นวันที่เที่ยวคุ้มมากกกกก และนี่คือโฉมหน้าของคนเที่ยวยันเที่ยงคืน เดินจนตีนจะแตก 5555

Day4 : วันสุดท้ายของทริป ตามหาที่ถ่ายรูป
วันนี้เราตื่นกันสายๆ มีเป้าหมายแรกที่จะไปคือพาเพื่อนเราไปทักทายพี่สิงโต ใครมา Merlion park ตอนกลางวันนี่สู้มากกก เพราะแดดร้อนมากกกก แต่มาตอนกลงวันภาพก็สวยมากเหมือนกันนะ











Street Art และ มุมถ่ายรูปทั่วประเทศ
ทักทายพี่สิงโตเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินไปหามุมถ่ายรูปยอดฮิตที่อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้กันต่อค่ะ ที่นี่คือตึกสีๆ ชื่อทางการคือ อาคารกองบัญชาตำรวจเก่า (Old Hill Police Station) เราเดินมาตาม google maps แล้วก็มาถึงแล้วค่ะ



วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้ เราไม่มีแพลนอะไรมากไปกว่าการถ่ายรูปเล่นกับมุมสวยๆทั่วสิงคโปร์ ต้องบอกว่าบางพิกัด ให้เราอธิบายวิธีการเดินทางเราก็อธิบายไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเราก็เดินไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เจอด้วยความบังเอิญ



เราชอบสิงคโปร์ที่ฟุตบาทเดินสะดวก มีมุมถ่ายรูปกระจายไปเที่ยวเมือง มันทำให้นักท่องเที่ยวแบบเราเพลินมาก แม้อากาศที่นี่จะร้อนมาก (แบบเมืองไทย) ก็ตาม












Jewel Changi Airport
ใครมาเที่ยวสิงคโปร์วันกลับเราแนะนำให้เผื่อเวลาสำหรับการไปเดินเที่ยวในสนามบินชางงี สนามบินที่ติดอันดับโลก และทริปนี้เราจะชวนไปเที่ยวกันที่ Jewel Changi Airport ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ภายในมีน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก
ใครจะเดินทางกลับก็เผื่อเวลามาที่นี่เยอะๆเลยค่ะ เพราะนอกจากจะไปดูน้ำตก การแสดงแสงสีเสียง (ตอนเราไปไม่มีนะ 555) ภายใน Jewel ยังอัดแน่นไปด้วยร้านค้าต่างๆ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สามารถดูดเงินในกระเป๋าเราให้หายไปอย่างง่ายได้เลยค่ะ
วิธีเดินทาง : mrt สถานี Changi Airport





สิงคโปร์เราอาจจะไม่เหมือนใคร ไม่ได้ไปเก็บแต้มจุดถ่ายรูปมากนัก แต่มันเป็นสิงคโปร์ที่เราคิดถึง
