Radda sea house | หนีเที่ยวไปพักผ่อนที่เกาะล้าน

เดือนนี้เหนื่อยมากกกก ร่างกายอยากเจอทะเล

แต่การเจอทะเลของเรา เราก็ไม่ได้อากเล่นน้ำทะเลอยากแค่นั่งมองงงงง อยากใช้เวลาชิลๆในบรรยากาศที่มองเห็นทะเล แค่นั้นก็ฮีลใจเราได้มากแล้ว

ทริปนี้เราพาทุกคนหนีเที่ยวไปเกาะล้านกันค่ะ ที่พักที่เราปักหมุดว่าต้องมาพักให้ได้ เพราะห้องพักที่มีวิวที่เห็นทะเล เป็นภาพที่ตราตรึงมาก ที่พักแห่งนี้ชื่อว่า Radda Sea House

วิธีเดินทางไปเกาะล้าน

เดินทาง : เนื่องด้วยช่วงนี้ยังเป็นช่วงโรคระบาดโควิด19 เราเยขอเลือกขับรถส่วนตัวมุ่งหน้ามายัง “ท่าเรือแหลมบาลีฮาย” เผื่อที่จะได้ลงเรือเดินทางไปยังเกาะล้าน
ฝากรถ : เมื่อมาถึงเราต้องทำการฝากรถ โดยรอบๆท่าเรือจะมีที่ฝากรถเยอะเลยค่ะ ราคาฝากรถแบบ 1 คืน 200 บาท
เรือข้ามฟาก : เรือโดยสาร ราคาคนละ 30 บาท/เที่ยว (มีวันละ 3 เที่ยว) Speed Boat ราคาไปกลับคนละ 200 บาท เรือออกเมื่อคนเต็ม (เหมาะสำหรับคนที่มาไม่ทนเรือโดยสารแบบเรา)

Radda Sea House ที่พักสุดฮอตในไอจี เพราะไม่ว่าใครอัพรูปนี้ลงไอจี ยอดไลค์ก็จะพุ่งทะยาน พร้อมคำถามที่ตามมาที่นี่ที่ไหน ทริปนี้เราเลยขอพาทุกคนหนีเที่ยวไปพักผ่อนกันที่เกาะล้าน

รูปแบบที่พักของ Radda Sea House แบ่งออกเป็น 2 typs

Sea View : มีทั้งหมด 4 ห้อง วิวจะแตกต่างกันตามตำแหน่งของห้อง
- ราคา 3600 บาท/คืน/2คน สำหรับการเข้าพักในวันจันทร์ – พฤหัสบดี
- ราคา 3900 /คืน/2คน สำหรับการเข้าพักในวันศุกร์ – อาทิตย์
- ราคาห้องรวมอาหารเช้า
- มี bath tub ทุกห้อง

Delux room (วิวสวน) : มีทั้งหมด 1 ห้อง
- ราคา 2600 บาท/คืน/2คน สำหรับการเข้าพักในวันจันทร์ – พฤหัสบดี
- ราคา 2900 /คืน/2คน สำหรับการเข้าพักในวันศุกร์ – อาทิตย์
- ราคาห้องรวมอาหารเช้า
- มี bath tub

มาดูห้องที่เราพักกันในทริปนี้ค่ะ เราเลือกห้อง Sea View 2 เป็นห้องมุม และอีกเหตุผลที่เลือกเราชอบสีเขียวเข้มของผนังห้องนี้

ส่วนของห้องน้ำ ขนาดตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไป แต่ใช้สีน่ารัก และสะอาดมากค่ะ

อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่คือ ทุกห้องจะมี bath tub ซึ่งมุมที่วางก็จะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งของห้อง แต่ห้องเรา seaview 2 มุมนี้คือสวยมาก โดยเฉพาะตอนที่แสงเช้าสาดเข้ามา

จริงๆแล้วที่นี่ดูเหมือนว่าจะมีแค่มุมไม่กี่มุม เพราะเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเกาะล้าน แต่ที่นี่เหมาะมากกับคนที่อยาจะชาร์จแบตตัวเอง อยากพักผ่อน อยากนอนเล่น นั่งเล่น อ่านหนังสือ จิบไวน์ นั่งมองทะเล มันเป็นที่ที่เหมาะมากเลยค่ะ และเราก็คงคอนเว็ปการพักผ่อน คือการใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราได้เห็นฟีลที่ต่างกันเมื่อเวลาผ่านไปของห้องนี้

ตั้งแต่ช่วงที่ฝนกำลัจะตก

ช่วงเวลาตอนเย็นที่น้ำขึ้นและแสงสวยที่สุด

ช่วงเวลาที่แสง Twilight

ช่วงเวลาที่ฝนตกในตอนเช้าตรู่

Breakfast ราคาห้องของที่นี่จะรวมอาหารเช้าไว้อยู่แล้ว เราสามารถนัดเวลาที่จะรับอาหารเช้าได้ตั้งแต่ตอนเช็คอิน เมื่อถึงเวลานัดคุรป้าที่ดูแลจะมาเคาะที่ห้อง เพราะกับอาหารเช้าที่หน้าตาน่าทาน และกลิ่นหอมๆของข้าวต้ม

สรุป

สำหรับใครมองหาสถานที่ชาร์จแบตตัวเอง เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ได้นั่งๆ นอนๆ มองทะเลได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ เราแนะนำที่นี่เลยนะ RADDA SEA HOUSE เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับคนที่อยากอยู่กับตัวเองในสถานที่สวยๆแบบนี้