ถ้าไม่ได้เห็นฟูจิด้วยตาตัวเอง ก็เหมือนมาไม่ถึงญี่ปุ่น
ใครสักคนบอกเราแบบนั้น

จริงๆแล้วการที่เราจะไปดูภูเขาไฟฟูจิ สามารถเห็นภูเขาลูกนี้ได้จากหลายสถานที่ เพราะภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเราจึงเห็นได้จากหลายสถานที่นั่นเองค่ะ
บทความนี้เราจะพาทุกคนไปดูภูเขาไฟฟูจิกันที่ Kawaguchiko ซึ่งถือเป็นปลายทางยอดฮิตสำหรับใครก็ต้องการไปชมภูเขาไฟฟูจิ

ไปดูฟูจิ อย่ากำหนดวัน
ภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาไฟที่ขี้อายมากกกก ไม่ค่อยยอมให้ใครได้เห็นง่ายๆ (มักจะมีเมฆปกคลุมยอดภูเขาไฟเสมอ) เรามีวิธีง่ายๆที่ตัวเรามักจะใช้เมื่อจะไปดูภูเขาไฟฟูจิ
- ไม่ควรกำหนดวันแบบตายตัวเอาไว้ เพราะอากาศอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราควรจะเช็คพยากรณ์อากาศแบบวันต่อวัน
- แนะนำให้เช็คพยากรณ์อากาศแบบวันต่อวัน เพื่อความแม่นยำ แนะนำให้ค้นหาใน google ว่า “kawaguchiko weather” ถ้าอากาศแจ่มใสก็ไปวันนั้นเลยค่า

วิธีการเดินทาง & Pass
Pass
การเดินทางมายัง Kawaguchiko สามารถทำได้หลายวิธีค่ะ แต่เราขออธิบายในส่วนของที่ตัวเองเคยไปมาแล้วกันนะคะ วิธีนั้นคือการเดินทางด้วยรถไฟ
การเดินทางด้วยรถไฟ เป็นการเดินทางในญี่ปุ่นที่เราชอบที่สุด แต่ด้วยราคาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับกระเป๋า ดังนั้นหากใครมี Pass ต่างๆที่ครอบคลุม เราแนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟ เพราะนอกจากสะดวก รวดเร็ว และมีวิวสวยๆข้างทางให้มองอีกด้วย
- JR Pass สามารถนั่งได้ฟรีถึงสถานี JR Otsuki (จ่ายเพิ่มจาก Otsuki – Kawaguchiko ประมาณ 1110 เยน )
- JR Kanto Pass สามารถนั่งได้ฟรีถึงสถานี Kawaguchiko
เช็คการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นได้ที่ : http://www.hyperdia.com/

เส้นทาง
ต่อที่ 1 : ต้นทาง : JR Shinjuku– ปลายทาง : JR Otsuki
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1340 เยน
สามารถใช้ JR Pass และ JR Kanto Pass ฟรี

ต่อที่ 2 : ต้นทาง : JR Otsuki– ปลายทาง : Kawaguchiko
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1170 เยน
สามารถใช้ JR Kanto Pass ฟรี

สำหรับคนที่เดินทางครั้งแรก ต้องจำให้ดีนะคะ เราจะลงสถานีที่ชื่อว่า Kawaguchiko เพราะก่อนหน้าที่จะถึงสถานีนี้จะมีสถานีที่ชื่อต่อท้ายด้วยคำว่า Fuji อาจทำให้สับสนได้
สถานี Mt.Fuji > Fujikyu Highland (เป็นสถานีที่ตั้งของสวนสนุก) > Kawaguchiko (เราจะลงสถานีนี้)
* ข้อควรจำ เมื่อถึงสถานี Fujikyu Highland รถไฟจะหันหัวกลับ ไม่ต้องตกใจค่ะ จุดหมายของเราคือสถานีต่อไป

สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station)
ถ้าเรามาในวันที่ฟ้าเคลียร์ อากาศดี แค่หน้าสถานีก็ฟินแล้วค่ะ
เราชอบวิวภูเขาไฟฟูจิหน้าสถานีรถไฟคาวากุจิโกะมากๆ เพราะตรงหน้าสถานีจะมีมุมรถไฟโบราณที่เคยใช้จริงจอดอยู่ด้วยนะคะ เป็นวิวที่ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆเลยล่ะ
- สถานีคาวากุจิโกะ มีห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของ ตู้เก็บของ ถือว่าสะดวกมากเลยค่ะ
- Tourist Information สามารถขอแผนที่เส้นทางรถ Retro Bus ได้เลยค่ะ

การไปชมภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ
วิธีการที่สะดวกที่สุดคือการนั่งรถ Retro Bus เป็นรถเมล์ที่วิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ ต้นทางจากสถานีรถไฟ Kawaguchiko ไปยังป้ายสุดท้าย โดยมีทั้งหมด 21 ป้าย
หากใครที่คิดว่าจะแวะหลายป้ายแนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ One day pass ราคา 1,000 เยน เราจะขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัดใน 1 วัน หากไม่ได้ซื้อพาสแนะนำว่าให้เตรียมเงินสดไปด้วยนะคะ
ตั๋วรถ Retro Bus แบบ One day pass สามารถซื้อได้จากคนขับรถเลยค่ะ

Bus Stop ที่น่าสนใจ ในเส้นทาง Retro Bus รอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ
เส้นทางรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีป้ายหยุดรถทั้งหมด 21 ป้าย
- ป้ายหมายเลข 11 Yuransen Ropeway Iriguchi Bus stop : Mt.Tenjo มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway (สามารถมองเห็นวิวภูเขาฟูจิได้ชัดเจน)
- ป้ายหมายเลข 21 Kawaguchiko Shizen Seikatsukan Bus stop : ป้ายสุดท้าย มีร้านขายของที่ระลึก ของฝาก สามารถนั่งทานกาแฟ หรือ softcream เพลินๆ โดยมีวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่ตรงหน้า

walking tour
อีกหนึ่งวิธีชมภูเขาไฟฟูจิแบบวิวสวยๆ ไม่เหมือนใคร ที่เราค้นพบด้วยตัวเอง คือ การเดินเท้าเที่ยวเอง วิธีนี้ต้องบอกว่าสำหรับคนมีเวลาหน่อย และชอบการเดินเที่ยวเป็นหลัก
การเดินเที่ยวรอบๆ คาวากุจิโกะ เราสามารถมองเห็นภูเขาฟูจิได้ชัดเจนเลยค่ะ เส้นทางก็เหมือนกับเส้นทาง Retro Bus แตกต่างกันที่เราสามารถแวะเข้าซอกซอยได้ตลอด แต่ด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควรทำให้วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยม แต่กระนั้นเพราะว่าไม่เป็นที่นิยม เราเลยจะได้ภาพที่ไม่เหมือนใครนั่นเอง

นอกจากการเดินเท้าจะทำให้เราได้วิวภูเขาไฟฟูจิไม่เหมือนใครแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นบ้านญี่ปุ่นในชนบท ที่คล้ายกับบ้านโนบิตะที่เราเคยเห็นในการ์ตูน แถมบรรยากาศระแวกนี้ก็สวยมากเลยค่ะ

เราเลยชอบการเดินเท้าสำรวจรอบๆ คาวากุจิโกะ มากกว่าวิธีไหนซะอีก รอบหน้าใครไปดูภูเขาไฟฟูจิอีกครั้ง ลองเดินเท้าเที่ยวดูนะคะ อาจจะได้วิวแปลกตากว่าใครๆก็ได้
