เราชอบการเดินทางด้วยรถไฟ เพราะมันทำให้ได้พบได้เจออะไรมากกว่าแค่การขับรถเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง หรือ การแค่ขึ้นรถมาแล้วก็ลงจุดหมายนั้นเลย แต่ไม่มีเวลานั่งมองระหว่างทาง
สำหรับเราการเดินทางแบบนั้นมันไม่สามารถสร้างเรื่องราวประทับใจยาวนานได้
เราจึงเลือกที่จะเดินทางที่มันดูยากลำบาก แต่มันกลับสร้างความทรงจำที่เป็นมากกว่าการท่องเที่ยว เพราะมันจะเป็น “การเดินทาง”
การเดินทางครั้งนี้ เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟ จากกรุงเทพไปยังราชบุรี แล้วต่อรถประจำทางไปยังตลาดน้ำดำเนินสะดวก
เรามาซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟหัวลำโพงกันตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งเมื่อมาถึงก็ได้รู้ว่าเรามาไม่ทันรถไฟรอบแรก ซึ่งรอบต่อไปที่จะจอดสถานีรถไฟราชบุรีเป็นขบวนรถด่วนพิเศษ ราคาตั๋วอยู่ที่ 367 บาท แต่ถ้าไปขบวนธรรมดาจะราคาแค่ประมาณ 30 บาท เองค่ะ
เจ้าหน้าที่การรถไฟก็น่ารักนะคะ ถามเราว่ารอขบวนก่อนเที่ยงมั้ย จะได้จ่ายแค่ประมาณ 30 กว่าบาท แต่เราอยากไปกันเร็วๆ เลยตกลงซื้อตั๋วขบวนรถเร็วไปค่ะ
แต่ถ้าใครอยากจะเช็ครอบรถไฟก่อนเดินทาง หรืออยากจองแบบออนไลน์ไปเลย สามารถคลิกลิงค์และดูวิธีจองได้ที่ https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/ ส่วนวิธีการจองคลิกลิงค์นี้เลยจ้า https://wp.me/p8RAsl-8C
ถึงแม้เราจะชอบนั่งรถไฟ แต่เราก็ไม่ได้มีโอกาสนั่งรถไฟบ่อยนัก และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้นั่งขบวนรถเร็วแบบนี้ค่ะ
เราออกจากสถานีหัวลำโพงได้ไม่นาน ก็มีพี่พนักงานบนรถไฟเอาขนมและน้ำหวานที่เราสามารถเลือกได้มาเสิร์ฟด้วยนะ
อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีบริการแบบนี้บนรถไฟไทยด้วย น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก
บนรถไฟขบวนนี้นอกจากจะนั่งสบายแล้ว ยังมีพี่พนักงานคอยเดินเก็บกวาดขยะบ้าง ถูพื้นบ้างอยู่ตลอดเลยค่ะ
เรานั่งรถไฟมาถึงนครปฐมฝนก็เริ่มโปรยปราย
เราและเพื่อนร่วมทริปหันมามองหน้ากันทันทีค่ะ เพราะไม่มีใครเอาร่มมาเลยยยยยยยยยย นั้นงายยยยยยยยยย มีแววเปียกแน่ๆทริปนี้
เรานั่งรถไฟมองข้างทางมาเพลินๆประมาณ 2 ชม. นิดๆก็มาถึงสถานีราชบุรีค่ะ
เรามาถึงประมาณ 10 โมงกว่าๆ ทุกคนในทริปลงความเห็นว่าไปกินก่อนเถอะ เราออกมาหน้าสถานีรถไฟ ลองใช้ Google Map ในการค้นหาร้านแรกของราชบุรีที่เราจะเปิดทริปนี้กัน
Google Map บอกเราว่าเดินไม่เกิน 5 นาที เราเลยคิดว่าไหนๆครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เรามาเที่ยวราชบุรี เราเลยขอใช้สองขาของตัวเองนี่ละค่ะ พาเที่ยวละกัน แค่ 5 นาทีเองไม่ไกล
จากสถานีรถไฟเดินตรงมาเรื่อยๆประมาณ 5 นาที และเราก็จะมาถึงงงงงงงงงง
ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม
ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของจังหวัดราชบุรี ใครมาราชบุรีต้องแวะมาาาาาาาาาาาาา
มาถึงอย่าให้เสียเวลาค่ะ เราสั่งก๋วยเตี๋ยวไข่มาคนละชามค่ะ
รสชาติก๋วยเตี๋ยวเราว่า ติดเค็มไปนิดนึงนะคะ แต่ปรุงหน่อยก็อร่อยดีค่ะ ใครมาราชบุรีก็ลองแวะมาทานก๋วยเตี๋ยวคุณแหม่มดูนะคะ
คะแนนรสชาติที่บันทึกนักหนีเที่ยวให้ : 7.5 /10
จากร้านก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม เราใช้วิธีเดิมค่ะคือการเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เพราะเรายังไม่มีแพลนว่าจะไปแวะที่ไหน เลยใช้วิธีเดินดูเอาแล้วกันชอบที่ไหนก็แวะที่นั่นเลย
แต่เราไม่ได้ถ่ายรูประหว่างทางที่เดินมานะคะ เพราะฝนตกตลอดเลย
เราเดินมาประมาณ 15 นาที ก็เห็นคาเฟ่น่ารักๆแห่งนึง เราไม่ลังเลที่จะแวะเลยค่ะ ก็ร้านเขาน่ารักกกกก มีไอติมน่ากินด้วยนะ
(ยิ้มตายีพร้อมจับแก้มกลมๆของตัวเองแล้วเดินเข้าไปในร้าน)
Bitter Sweet
บิทเทอร์ สวีท เป็นคาเฟ่ที่เราบังเอิญเจอระหว่างทาง แต่เห็นความน่ารักของร้านและเมนูไอติมที่น่าทานมาก สุดท้ายก็ต้องขอแวะมาลองชิมหน่อยค่ะ ว่าจะอร่อยรึป่าว
เราสั่งทั้งหมดมาสี่อย่างค่ะ อร่อยทุกอย่างง และที่อยากแนะนำมากคือไอติมมะม่วงน้ำปลาหวาน คือใช่มากกกกกกกก ดีมากกกกกกกกกกกกกกก ฟินนนนนนนนนน
คะแนนรสชาติที่บันทึกนักหนีเที่ยวให้ : 8.5 /10 ขอหักในส่วนที่ราคาแพงไปนิดนึง
เราทานไอติมเสร็จพอดีกับที่ฝนเริ่มซาค่ะ ก็เลยออกมาจากร้านเดินลัดเลาะในเมืองราชบุรีไปเรื่อยๆเหมือนเดิม แต่เราเดินมาได้ไม่นานฝนก็ตกอีกแล้วค่ะ มองซ้ายมองขวาขอหลบเข้าร้านกาแฟอีกรอบละกัน
(ยังจะหาเรื่องไปกินกาแฟอีกกกกกกกกก)
เราเดินมาถึงตลาดเก่าโคยกี๊ ก็ขอเลี้ยวเข้าคาเฟ่อีกหนึ่งแห่งแถวๆนั้นดีกว่าค่ะ
Cups ‘n Cake
คาเฟ่แห่งนี้มีเพื่อนรุ่นพี่เราแนะนำมาด้วยค่ะ ไหนๆก็เดินมาแถวนี้พอดีต้องแวะไปลองของสักหน่อย
เราเข้ามาในร้านใกล้ๆเที่ยง กวาดสายตาไปดูแขกเต็มร้านเลยค่ะ และ 90% น่าจะเป็นคนในพื้นที่ด้วย ปกติถ้าร้านไหนคนในพื้นที่เยอะ แสดงว่าร้านนั้นมักไม่ธรรมดา
เรากับเพื่อนสั่งเครื่องดื่มและขนมมาสอง-สามอย่าง คือร้านนี้เค้กและโทสหน้าตาธรรมดามากกก เห่ย แต่มันอร่อยนะ ก็ว่าทำไมคนเข้าร้านเยอะเลย ใครมาราชบุรีอยากให้ลองแวะมาร้านนี้ดู
คะแนนรสชาติที่บันทึกนักหนีเที่ยวให้ : 8.5 /10 ราคาไม่แพงด้วยนะ ฟินนนน
เราทำรีวิวเฉพาะของร้านนี้ไว้ด้วยนะ https://wp.me/p8RAsl-1hA
จริงๆทริปนี้เราตั้งใจจะมาถ่ายรูปเล่นในเมืองราชบุรี เพราะว่ามีสถานที่เที่ยวเยอะพอสมควรเลยค่ะ จากที่หาข้อมูลมา แต่ฝนไม่เป็นใจให้เราไปถ่ายรูปเล่นเลย มองดูนาฬิกาตอนนี้ก็เลยบ่ายมาพอสมควรแล้ว
เราถามข้อมูลจากคนในพื้นที่ว่าถ้าเราจะไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกมีรถประจำทางมั้ย และได้ข้อมูลว่า รถประจำทางเป็นสองแถวอ่ะมี แต่ๆๆ รถจะมีแค่ช่วงเช้า ช่วงเย็นแบบนี้ไม่มีรถประจำทางไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกแล้ว
“เอาไงอ้ะมึง” เพื่อนร่วมทริปหันมาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“มันต้องมีทางสิว้ะ เที่ยวเมืองนอกมาก็เยอะ ไม่มีรถประจำทาง ยังดั้นด้นไปจนถึง นี่เมืองไทย ประเทศเราเอง พูดภาษาไทย มันต้องไปได้ดิว้ะ”
และแล้วสวรรค์ก็ส่งพระเอกขี่ตุ๊กๆมาช่วยเรา
“ลุงงงงงงงงขาาาาา หนูจะไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก ลุงไปส่งหนูที่ท่ารถที่ไหนก็ได้ให้หน่อยได้มั้ยค่ะ”
“หนูเวลานี้มันไม่มีรถไปดำเนินแล้ว แต่ลุงไปส่งหนูได้นะ”
“จริงหรอค่ะลุง แล้วลุงคิดราคาหนูเท่าไรค่ะ”
” 350 นะ มันไกล ”
“โอเคค่ะลุง” หารแล้วเหลือคนละ ประมาณ 120 บาท
แล้วเราก็ขึ้นตุ๊กๆลุงเพื่อไปดำเนินสะดวกกันค่ะ และก็เป็นอย่างที่ลุงว่ามันไกล เราใช้เวลานั่งรถมาเกือบ 40 นาทีเลยค่ะ
ส่วนใครที่มาเที่ยวตัวเมืองราชบุรีแล้วอยากได้รถรับส่ง โทรหาลุงอู๋เลยค่ะ ลุงจะไปรับถึงที่เลย
061-540-3349 ลุงอู๋ รถตุ๊กๆ จ.ราชบุรี
ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วค่ะ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เราให้ลุงไปส่งหน้าโรงแรมที่จองเอาไว้
The Peace Cafe x Hostel
ที่พักแห่งนี้อยู่ใกล้ตลาดน้ำมากกกกกกกกกกกกกกก แถมได้คะแนนใน booking เยอะด้วยค่ะ
มาถึงปุ้บ เราขอไปเช็คอินเลยค่ะ อยากวางกระเป๋าแล้ว
เราได้ห้องแบบ 4 เตียง อยู่ชั้น3
เราหาโฮสเทลแห่งนี้เจอจาก agoda ซึ่งคะแนนอ้างอิงจาก booking ให้สูงถึง 9 เลยนะ
และเรามองว่าการมาเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้เราไม่จำเป็นต้องพักโรงแรมหรูๆหรอกค่ะ เอาแค่ที่นอนสบาย สะอาด และปลอดภัย เราว่าก็โอเคแล้วค่ะ
ส่วนห้องที่เราพักราคาอยู่ที่ประมาณ 400/เตียง/คืน ซึ่งถือว่าราคาโอเคมากสำหรับทริปที่มาเที่ยวแบบลุยๆกับเพื่อน
เราเดินขึ้นมาชั้น 3 เพื่อวางของในห้องพัก
“เห่ยยยยย มึงง ห้องดี !! เหมือนที่ญี่ปุ่นเลยว้ะ”
“จริงงงงงงงงงงงงง ชอบบบบบบบบบบบ”
ห้องพักสวยมากค่ะ แต่ขึ้นชื่อว่าโฮสเทล ก็จะไม่มีห้องน้ำในห้องนอนนะคะ ห้องน้ำของที่นี่จะอยู่ชั้นล่างสุดค่ะ
เราเอาของเก็บในห้องเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาลงไปถ่ายรูปส่วนอื่นๆของที่พักกันหน่อย
ออกมาหน้าห้องส่วนโถงของชั้น 3 จะเป็นของส่วนกลางที่เป็นโต้ะยาวเอาให้ไว้แขกมาให้พื้นที่ตรงนี้ได้ค่ะ แล้วยังมีคอมพิวเตอร์ไว้ให้แขกได้ใช้ฟรีด้วยนะคะ
เราชอบโถงชั้น 3 นะคะ โล่งโปร่งสบายตามากกกกกกกกก
ส่วนใครที่กลัวปวดเข้าห้องน้ำตอนดึกๆก็ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องลงไปชั้นล่าง เพราะห้องน้ำสำหรับหนัก-เบา จะมีอยู่ทุกชั้นเลยนะ
เราเดินลงมาชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Kitchen Area มีไมโครเวฟ ตู้เย็น พร้อมถ้วยชามให้เราได้ใช้ แบบฉบับของโฮสเทลทั่วไปค่ะ แต่ที่นี่ทำออกมาน่ารักดูญี่ปุ่นดีนะ
ส่วนของชั้นล่างจะเป็นส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวมนะคะ
เชื่อว่ามีคนไทยจำนวนเยอะมากกกกกกกกกก ที่อาจจะไม่ชอบการต้องมาพักแล้วต้องมาใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่น แต่ที่นี่ห้องน้ำสะอาดมากกกกกกกกกกค่ะ ช่วงที่เราไปพักเป็นวันเสาร์-อาทิตย์แขกพักเต็ม แต่ช่วงเข้าห้องน้ำเราก็ไม่เจอแขกท่านอื่นเลยนะ
ภายในห้องน้ำมีแชมพู-สบู่เหลวให้นะคะ
เรารีวิวเฉพาะของที่พักแยกไว้ด้วย สามารถคลิกลิงค์เข้าไปที่ https://wp.me/p8RAsl-1Fy
เราถ่ายรูปห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว สมาชิกในทีมเราเริ่มหิวแล้วละค่ะ
เราถามพี่สตาฟของที่พักว่าแถวนี้มีอะไรให้ทานบ้าง วันที่เราไปพักเป็นช่วงที่พี่เจ้าของอยู่พอดีค่ะ พี่เจ้าของที่พักเลยแนะนำข้าวต้มแห้งอาหารขึ้นชื่อของดำเนินสะดวก แล้วยังบอกเราว่า ตอนนี้ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกมีขายตอนกลางคืนละด้วยนะ
พี่เจ้าของที่พักเลยอาสาพาเราไปกินข้าวต้มแห้งของดีดำเนินสะดวก
(เอาจริงนะ ตอนนี้ยังยังไม่ได้ลองนอนเลย แต่กลับหลงรัก The Peace Cafe x Hostel ไปแล้วก็เพราะความน่ารักใส่ใจของพี่เจ้าของนี่แหละ)
จากโฮสเทลเดินมาตลาดน้ำไม่ถึง 5 นาทีเลยค่ะ ถือว่าเป็นที่พักที่ใกล้ตลาดน้ำดำเนินสะดวกมากกกกกกกกก
เรามากันสามคน เลยสั่งกันสามอย่างมีข้าวต้มแห้ง ข้าวต้มปกติ และก๋ยวจั๊บ จะได้ช่วยกันชิมค่ะ
คือทุกอย่างอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก คือข้าวต้มแห้งอ่ะอร่อยมากกกกก สมแล้วที่เป็นของขึ้นชื่อ
ใครมาเที่ยวดำเนินสะดวกต้องมากินให้ได้ค่ะ
เรากลับมาจากตลาดน้ำแล้ว ก็ขอแวะนั่งเล่นคาเฟ่ของโฮสเทลหน่อยค่ะ กลางคืนบรรยากาศน่ารักมาก ชอบนะที่นี่บรรยากาศทุกส่วนอบอุ่น
บรรยากาศในร้านชั่งเย้ายวนให้เราสั่งของหวานมานั่งกินจริงๆค่ะ
แล้วเราก็ไม่ขัดศรัทธาตัวเองด้วยนะ สั่งของหวานมากินก่อนนอนนนนนนนนนน อนาคตการเป็นหมูรออยู่แน่นอน
เราสั่งเครื่องดื่มเป็นกาแฟ ตามด้วยสตอเบอรี่ปั่น และชาเขียวมาดื่มค่ะ คือรสชาติดีมากกกกกกกกก ส่วนขนมเราสั่งเป็นไอติมแซนวิชคือฟินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน คืนนี้ฝันดีแน่นอน
คะแนนรสชาติที่บันทึกนักหนีเที่ยวให้ : 9 ฟินมากกกกกกกกกกก
Day 2
“ทุกคนตื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนน”
“โอ้ยยยยไม่เอาาาาา เตียงที่นี่ดูดมากกกกกกก หลับสบายเว่อออออออ”
“จริงว้ะ อย่างกับโรงแรม 5 ดาว”
นั้นคือบทสนทนาบนเตียงในโฮสเทลแห่งนี้ของพวกเราค่ะ
เมื่อคืนก่อนจะขึ้นมานอน เราถามพี่ๆที่โฮสเทลว่าตลาดน้ำเริ่มกี่โมง ได้ความว่าประมาณ 8 โมงกว่าๆพ่อค้า แม่ค้าก็เริ่มมาแล้ว แต่ถ้าให้คึกคักก็ใกล้ๆ 11โมงโน้น
แต่เราอยากถ่ายรูปมันตั้งแต่เช้าๆ วันนี้ก็เลยตื่นกันเช้าหน่อยค่ะ ลุกขึ้นจัดการตัวเองเรียบร้อย 8โมงครึ่งเราก็ขอเดินมาที่ตลาดก่อนเลย อยากเห็นบรรยากาศตั้งแต่เช้าๆ
การมาตลาดน้ำดำเนินสะดวกเช้าๆแบบนี้ ก็เหมือนตามที่พี่ๆที่โฮสเทลบอกคือมันยังไม่คึกคัก แต่ข้อดีของการมาเช้าที่เราได้เจอคือคุณยายแม่ค้าจะค่อยๆพายเรือมาเพื่อจะมาขายของที่ตลาดน้ำแห่งนี้ค่ะ
ใครชอบการได้นั่งมองวิถีชีวิตเช้าบ้านแบบเราต้องหลงรักวิถีชีวิตชาวบ้านดำเนินสะดวกแน่นอนค่ะ
มีคุณยายท่านหนึ่งค่ะ แกพายเรือมาขายผลไม้ เรากดถ่ายรูปแกไว้เยอะมากกกก ทุกครั้งที่ได้เห็นคนแก่หน้าตาใจดีแบบนี้ก็คิดถึงคุณย่าตัวเองทุกทีค่ะ
ประมาณ 9 โมง เหล่าแม่ค้าก็จะเริ่มขายของในเรือตัวเองกันค่ะ ใครชอบถ่ายรูปแบบเราเพลินแน่นอน
เราเดินถ่ายรูปจนเริ่มหิว เลยขอเดินเล่นๆไปยังอีกฝั่งคลอง
แล้วเราก็ไปเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดอร่อยมากกกกกกกกกกกกก ไม่คาวเลย
ระหว่างทานก๋วยเตี๋ยวเราสอบถามคุณลุง-คุณป้าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ว่าทำไมฝั่งนี้ถึงมีเก้าอี้ให้เรานั่ง แต่ทำไมอีกฝั่งคลองไม่มี คุณลุงเล่าว่า ฝั่งที่เราถ่ายรูปมาก่อนหน้านี้ คือคลองที่แม่ค้าพ่อค้าในดำเนินสะดวกมาตั้งแต่เริ่มต้นตลาดน้ำ แต่คลองนี้(ที่เรามากินก๋วยเตี๋ยว) เป็นคลองที่ขุดขึ้นมาใหม่ พ่อค้าแม่ค้าที่จะจอดเรือเทียบท่าต้องจ่ายค่าที่ แต่ถ้าแค่พายเรือผ่านก็ไม่เป็นไร
หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดเสร็จแล้ว เราก็ขอเดินกลับมาคลองหลัก เพราะตอนนี้กำลังจะ 10 โมงแล้วค่ะ พ่อค้าแม่ค้าเริ่มจะคึกคักกันแล้ว แต่ช่วงที่เรามาเป็น โลว์ซีซั่น แม่ค้าจะไม่เยอะ
และการที่เรามาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกนอกจากจะเดินเที่ยวแบบที่เราทำแล้ว สามารถที่จะนั่งเรือเที่ยวในคลองได้ด้วยนะ
เดินเที่ยวไปกินไปสนุกมากค่ะ อะไรก็อร่อยไปหมดดดดดดดดดดดด ผลไม้หวานกรอบมากกกกกกกกกกก
เราชอบความน่ารักของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดน้ำแห่งนี้มากค่ะ ทุกคนอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ช่วยกันจัดของในเรือของอีกคน เพราะเจ้าของเรือไม่สามารถจัดของตัวเองได้
และใครจะนั่งเรือเที่ยวต้องเผื่อเวลาหน่อยนะคะ เพราะว่าช่วงประมาณ 11 โมง การจราจรทางน้ำจะติดขัดมากกกกกกกกกก
เราเดินเล่นตลาดน้ำดำเนินสะดวกจนอิ่มตาอิ่มพุงแล้ว ก่อนจะกลับไปที่โฮสเทล ขอเดินไปดูชุมชนที่ติดกับตลาดน้ำแห่งนี้หน่อย ได้ข้อมูลจากคุณลุงท่านหนึ่งบอกว่าตรงนั้นเป็นชุมชนที่ชาวบ้านอาศัยอยู่จริงเงียบสงบ ชื่อตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั๊กให้ลองเดินไปดู
เราเดินเล่นมาเรื่อยๆจนได้เจอกับก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั๊ก ชื่อก๋วยเตี๋ยวเจ๊หมวย มีหรอค่ะ ที่เราจะไม่ลอง (อิอ้วนเอ้ยยยยยยยย กินอย่างเดียวเลยแกรรรร)
เราสั่งมา 3 ชามๆละ 30 บาท คือให้เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วรสชาติก็อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆค่ะ
กว่าเราจะกลับไปเก็บของเช็คเอ้าท์จากโฮสเทลก็บ่ายแล้วค่ะ เราถามพี่สตาฟที่โฮสเทลว่าถ้าเราจะเข้าเมืองราชบุรีเราต้องไปยังไง ได้ความว่า ให้เราไปรอรถหน้าถนนหลัก(หน้าโฮสเทล) จะมีรถสองแถวสีเหลืองๆ ก่อนขึ้นให้ถามก่อนว่าไปราชบุรีมั้ย
เรารออยู่สักพักก็มีรถมาค่ะ คุณลุงกับป้าที่ขับรถสองแถวบอกเราว่าบ่ายแล้วรถไม่ไปตัวเมืองราชบุรีแล้วนะ แต่จะไปส่งป้ายรถเมล์ที่ถนนใหญ่แล้วจากนั้นให้เราต่อรถเมล์ประจำทางเข้าเมือง มีรถผ่านเยอะเลย
นั่งรถมาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงแยกถนนใหญ่ที่ว่าค่ะ
เรานั่งรอรถเมล์อยู่ประมาณ 10 นาที รถก็มาค่ะ เราบอกพี่กระเป๋ารถเมล์ว่าเราจะลงป้ายที่ใกล้สถานีรถไฟที่สุด พี่กระเป๋ารถเมล์ก็น่ารักค่ะ บอกว่าได้เล้ยย เดี๋ยวจะถึงแล้วพี่เรียก
ไม่ถึง 20 นาที พี่กระเป๋ารถเมล์เรียกเราให้เตรียมตัวลงได้แล้ว เมื่อรถเมล์จอดเทียบแล้วพี่กระเป๋ารถเมล์ยังน่ารักเรียกมอไซค์วินให้เรา พร้อมบอกพี่วินว่า “ไปส่งน้องเขาที่สถานีรถไฟด้วยนะ”
มาถึงสถานีรถไฟขบวนรถไฟที่จะไปกรุงเทพต้องรอประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เพราะเรามาไม่ทันรถไฟขบวนรถที่ราคา 30 กว่าบาท (อีกละ) เราเลยได้ขบวนรถด่วนพิเศษเหมือนตอนมาค่ะ
เราเลยซื้อตั๋วแล้วขอไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟหน้าสถานีรอรถไฟละกัน
Junction : Cafe’n Bistro
ร้านกาแฟเท่ๆที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟราชบุรี ในร้านบรรยากาศสบายๆค่ะ
เราสั่งเครื่องดื่มมา 3 อย่าง ทุกอย่างดีมาก แต่อยากจะบอกว่าคอกาแฟต้องไม่พลาดเมนู 704 กาแฟดีมากกกกก ต้องมาลอง ส่วนเค้กและขนมอื่นๆก็อร่อยมากจริงๆค่ะร้านนี้
คะแนนรสชาติที่บันทึกนักหนีเที่ยวให้ : 9 /10 กาแฟดีมากกกกกกกกกกกกกกก สุดเลยสุด
เรานั่งทานกาแฟและขนม เวลาผ่านไปไวมากใกล้จะถึงเวลาที่รถไฟจะมาละค่ะ
เรามาถึงสถานีไม่นาน รถไฟขบวนที่เราจะเดินทางก็กำลังจะเข้าเทียบชานชลาพอดีเลยค่ะ ตรงเวลามาก
เราขึ้นมาบนรถไฟ หาที่นั่งของตัวเอง แล้วยังใช้เวลาสนทนากับคุณป้าคนที่นั่งข้างๆเพลินมากค่ะ ประมาณ 3 ชั่วโมงเราก็กลับมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง
ทริปนี้ถึงแม้จะดูเหนื่อยแต่เป็นอีกทริปที่สนุกมากเลยค่ะ
เรายอมรับนะคะ ว่าการเดินทางโดยไม่มีรถส่วนตัวมันไม่สะดวกสบาย แต่การเดินทางแบบนี้มันจะช่วยเพิ่มเรื่องราวและรสชาติความประทับใจของทริปให้เราได้มากมายจริงๆ และเชื่อเถอะค่ะ ถึงคุณไม่มีรถส่วนตัว คุณไม่รู้ทาง แต่ถ้าคุณเดินทางในประเทศไทยบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองแบบนี้ คุณจะได้เจอคนไทยน่ารักๆที่พร้อมช่วยเหลือคุณเสมอ
ประเทศไทยยังมีสถานที่ให้เราได้เดินทางอีกมากมาย เปิดใจให้กว้างแล้วลองออกเดินทางกันดูนะคะ
การเดินทางตลอดทริป
1.การเดินทางด้วยรถไฟ
กรุงเทพ – ราชบุรี
รถออก 6.30 น. ขบวนรถ 911 ราคาประมาณ 30-40 บาท
รถออก 13.00 น. ขบวนรถ 171 ราคาประมาณ 30-40 บาท
ราชบุรี – กรุงเทพ
รถออก 14.44 น. ขบวนรถ 174 ราคาประมาณ 30-40 บาท
รถออก 15.06 น. ขบวนรถ 168 ราคาประมาณ 30-40 บาท
2.การเดินทางด้วยตุ๊กๆหรือสองแถว
* ถ้าเหมารถลุงอู๋จากราชบุรีไปดำเนินสะดวก 350 บาท (061-540-3349 ลุงอู๋ รถตุ๊กๆ จ.ราชบุรี)
* รถสองแถวเหลือง (ก่อนเที่ยงจะมีรถไป-กลับ ราชบุรีดำเนินสะดวก) เรานั่งจากตลาดน้ำ – แยกถนนใหญ่ 25บาท/คน
3.รถเมล์ประจำทางเข้าเมืองราชบุรี คนละ 20 บาท
4.มอไซค์วินจากจุดที่รถเมล์จอด – สถานีรถไฟราชบุรี คนละ 30 บาท
ที่พักในทริป
The Peace Cafe x Hostel
อ่านรีวิวแบบละเอียดได้ที่ : https://wp.me/p8RAsl-1Fy
ราคาห้องเริ่มต้นที่ 380 บาท
408/11 Moo.9 Damnoensaduak Sub – District, Damnoensaduak District, Ratchaburi 70130
Facebook : the peace cafe x hostel
Instagram : thepeacecafexhostel
eMail : thepeacehostel@gmail.com
Tel : 032-910-262, 062-483-7195
ติตตามบันทึกนักหนีเที่ยวได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/neetiewdiary/
Instagram : neetiewdiary
web : www.neetiewdiary.com